แต่งหน้าอย่างไรช่วงฤดูหนาวเพื่อบอกลาผิวแห้งเป็นขุย! และเทรนด์เมคอัพสนุก ๆ สำหรับช่วงเทศกาล 

เรามาถึงตอนท้ายของปีและวันหยุดยาวที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว ต้องขอบอกเลยว่าในเกือบทุกที่บนโลกฤดูหนาวเป็นฤดูที่คุณจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเนื่องจากเป็นช่วงฤดูแต่งงานและเทศกาลต่าง ๆ และปีนี้เราได้พ้นยุคการแพร่ระบาด(ค่อนข้างจะ) อย่างเป็นทางการ และเทรนด์การแต่งหน้าหรือการดูผิวต่าง ๆ ก็กลับมาอีกครั้งและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคยเพราะทุกคนจะได้เปิดหน้าอวดโฉมกันแบบเต็ม ๆ ได้สักทีและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับฤดูหนาว ทำให้นึกถึงริมฝีปากที่แวววาว บลัชออนสีจัดจ้าน อายแชโดว์สีน้ำเงินและอื่น ๆ คุณรู้สึกหนาวในอากาศหรือไม่? ลมเย็น ๆ พัดผ่านหน้าต่างของคุณหรือไม่? แต่เฮ้คนสวย! ทำไมคุณถึงดูกังวลมากกับการแต่งหน้าในช่วงฤดูหนาว คุณอาจจะกังวลเรื่องของสภาพผิวไม่เรียบเนียนผิวแห้งเป็นขุยดูขรุขระและหม่นหมอง อันที่จริงแล้วคุณสามารถมีผิวที่สดใสและเปล่งปลั่งในฤดูกาลนี้ได้เช่นกัน จงรู้ไว้ว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่อาจพบปัญหาผิวในช่วงฤดูอันหนาวเหน็บนี้! ดังนั้น วันนี้คุณจะได้อ่านเกี่ยวกับเคล็ดลับการแต่งหน้าในฤดูหนาวที่จะทำให้คุณปราศจากผิวที่ลอกเป็นขุย เรามาอ่านเคล็ดลับความงามสำหรับหน้าหนาวกันดีกว่า

เคล็ดลับการแต่งหน้าในฤดูหนาว

เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาวอากาศและแสงก็เปลี่ยนไปรวมถึงสภาพผิวของเราด้วย ซึ่งหมายความว่าเทคนิคการแต่งหน้าในฤดูหนาวของเราต้องปรับให้เข้ากับวัฏจักรของธรรมชาติเพื่อให้ผิวของเราดูดีที่สุด ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาเคล็ดลับการแต่งหน้าในฤดูหนาวเราได้รวบรวมเคล็ดลับการแต่งหน้าในฤดูหนาวที่สำคัญที่สุดที่คุณควรจะทำ

• ลงรองพื้นให้น้อยกว่าช่วงอื่น ๆ ของปี

เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งในฤดูหนาวอาจส่งผลต่อผิวของคุณให้แห้งมากขึ้นและสิ่งที่ผิวของเราจะทำคือการผลิตน้ำมันบนผิวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องแต่งหน้าเบาๆ ในแง่ของ “การลงรองพื้น” แต่ให้เน้นที่การรักษาความชุ่มชื้นของผิวด้วยการผสมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เล็กน้อยลงบนรองพื้นก็เป็นตัวเลือกที่ดีหากต้องการให้ความชุ่มชื้นมากขึ้น จำไว้ว่าไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการลงรองพื้นที่เน้นให้เห็นถึงความแห้งของผิวที่ทำให้ใบหน้าดูไม่ดี

• เลือกมาสคาร่ากันน้ำ

งงว่าทำไมต้องมาสคาร่ากันน้ำในหน้าหนาว? ลมหนาวและสภาพอากาศหนาวเย็นอาจทำให้ดวงตาของคุณมีน้ำมากกว่าปกติได้ ดังนั้นมาสคาร่าและดินสอเขียนขอบตาแบบกันน้ำจึงจำเป็นเพื่อป้องกันให้คุณจะไม่กลายเป็นหมีแพนด้าเมื่อออกไปข้างนอกในเดือนที่อากาศหนาวเย็น

• เพิ่มสีสันให้กับแก้มของคุณ

แม้ว่าการปัดบรอนเซอร์จะไม่ค่อยเข้ากับผิวของคนส่วนใหญ่ในช่วงฤดูหนาว แต่บลัชออนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มสีสันให้กับฤดูหนาวที่ทำให้สีผิวอ่อนลงนั่นทำให้ผิวของคุณดูโทรม การเพิ่มเฉดสีชมพูให้กับพวงแก้มจะช่วยให้มีเลือดฝาดและเป็นธรรมชาติ โดยที่คุณไม่ต้องแต่งหน้ามากเกินไป

• หลีกเลี่ยงเนื้อแป้ง

ในกรณีนี้ที่จะหมายถึง เช่น แป้งสำหรับทาหน้า บลัชออนแบบแป้ง และแม้แต่อายแชโดว์แบบแป้งสามารถเน้นและกระตุ้นให้หน้าแห้งได้ เปลี่ยนผลิตภัณฑ์แป้งของคุณเป็นครีมและของเหลว เพื่อให้ใบหน้าของคุณอ่อนนุ่มและชุ่มชื้น ทำให้การแต่งหน้าของคุณดูดีขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่คุณเปลี่ยนมาใช้ได้แก่ รองพื้นชนิดครีมหรือชนิดน้ำ ไฮไลท์ชนิดน้ำ บลัชออนชนิดครีมหรือมูส บลัชออน สีเจลสำหรับทาตา 

เคล็ดลับการรักษาสภาพผิวให้สุขภาพดี

1. ใช้มาส์กหน้าบ่อยขึ้น

ปัญหาผิวในช่วงฤดูหนาวค่อนข้างน่ารําคาญสุด ๆ อุณหภูมิที่เย็นยะเยือกและอากาศที่แห้งแล้งไม่ต้องพูดถึงลมที่ระคายเคืองทั้งหมดเข้ามามีบทบาทในการสร้างผิวที่หมองคล้ําเป็นขุยแห้งแทนที่ผิวที่มีสุขภาพดีและเปล่งประกาย ดังที่กล่าวไว้มีขั้นตอนที่คุณสามารถทําได้เพื่อป้องกันและช่วยให้ผิวของคุณยังคงเปล่งปลั่งได้ดีสิ่งแรกคือเพิ่มขั้นตอนที่เข้มขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไวและเห็นผลชัดเจนโดยการเพิ่ม “มาส์กหน้า” เพราะมาส์กหน้ามีส่วนผสมที่ไม่เพียงแต่ให้ความชุ่มชื้นแต่ยังคงเข้มข้นเหมือนกับการทาเซรั่มแต่คุณอย่าลืมว่าการมาส์กหน้าคือการวางอาหารผิวที่ชุ่มฉ่ำนานหลายนาทีเพื่อให้เซลล์ผิวได้ดูดซึมอาหารผิวเหล่านี้จนอิ่มฟูมันจึงทำให้ผิวของคุณแข็งแรง อวบอิ่มและเรียบเนียนจึงสามารถช่วยปกป้องผิวของคุณจากฤดูหนาวอันโหดร้ายอีกด้วย เริ่มใช้มาสก์หน้าทุก 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 10 ถึง 20 นาที หรือจนกว่าแผ่นมาส์กที่ชุ่มฉ่ำของคุณจะแห้งลงแล้วคุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

2. ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญมากสำหรับการดูแลผิวในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นขั้นตอนการเตรียมผิวให้แข็งแรงพร้อมต่อสู้กับแรงปะทะจากอากาศภายนอกและกับร่างกายภายในที่เปลี่ยนแปลง สำหรับคนที่มีผิวผสมหรือผิวมันนี้คือช่วงเวลาสำคัญที่จะได้ลองและสัมผัสกับสกินแคร์บางชิ้นที่คุณไม่คุ้นเคยในช่วงฤดูอื่นของปีเช่นมอยเจอไรเซอร์ที่ทำให้ผิวนุ่มนวล อิ่มฟู และวาวฉ่ำ ในฤดูอื่นสำหรับคนที่มีผิวมันแล้วผลิตภัณฑ์บำรุงสำหรับหน้าฉ่ำวาวเหล่านี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะหยิบขึ้นมาใช้ แต่สำหรับคนที่มีผิวแห้งแล้วช่วงฤดูหนาวนี้กลับจะเป็นภัยคุกคามต่อผิวของคุณเสียมากกว่าดังนั้นจึงทำให้คุณจะต้องหาสกินแคร์มีความเข้มข้นพิเศษขึ้นอีกเล็กน้อยอย่าลืมว่าคุณจำเป็นต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์ในปริมาณที่เหมาะสมทันทีหลังจากที่คุณทำความสะอาดผิวแล้ว รอสักครู่จนกว่ามอยส์เจอไรเซอร์จะซึมเข้าสู่ผิวและล็อคความชุ่มชื้นไว้เพียงเท่านี้เซลล์ผิวและรูขุมขนของคุณก็จะชุ่มชื้นไม่แห้งเป็นขุยไปตลอดช่วงฤดูหนาวนี้แล้วหล่ะ

3. พกลิปบาล์มไว้กับคุณตลอดทั้งวัน

แน่นอนว่าบริเวณที่บอบบางและจะได้รับผลกระทบที่ชัดเจนจากอากาศหนาวนั่นคือ “ริมฝีปาก” บริเวณนี้เป็นหนึ่งส่วนที่โดดเด่นอยู่บนใบหน้าเนื่องจากผิวบนริมฝีปากของคุณบางจึงมีแนวโน้มที่จะแห้งกร้านเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น ๆ ของผิวหนัง เมื่อมันมีสภาพที่แห้งและแตกนั้นนอกจากจะเจ็บปวดแล้วมันยังยากที่จะปกปิดด้วยการแต่งหน้าลองนึกว่าผู้คนที่เดินผ่านจะมองริมฝีปากที่ลอกหรือไม่สม่ำเสมอเหมือนกับการจ้องมองสิวที่สุขเต็มที่นั่นแหละ และมันใช้เวลานานมากที่จะกลับมาสวยเรียบเนียนเหมือนเดิมอาจจะใช้เวลาถึง 1 อาทิตย์ในการรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้น แต่ในระหว่างนั้นมันส่งผลเสียกับบุคลิกและการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากมันสามารถทําให้คุณรู้สึกเสียสมาธิ เผลอจับริมฝีปากบ่อย ๆ และแม้กระทั่งรบกวนการกิน ลิปบาล์มเป็นสารคล้ายขี้ผึ้งนุ่ม ๆ ที่คุณใช้เพื่อทําให้อิ่มตัวและบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากริมฝีปากแห้งหรือแตกสารคล้ายขี้ผึ้งนี้ช่วยปกป้องริมฝีปากของคุณจากอากาศแห้งลมและอุณหภูมิที่เย็นจัดโดยเฉพาะ แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นลิปบาล์มที่ดีจะช่วยบรรเทาความแห้งกร้านในขณะที่ทําให้ริมฝีปากของคุณดูนุ่มแต่ในทางตรงกันข้ามหากเลือกลิปที่ไม่เหมาะสมนอกจะไม่บรรเทาอาการของคุณและจะทําให้ริมฝีปากของคุณดูมันเยิ้มนั่นเป็นเหตุผลที่การค้นหาลิปบาล์มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสําคัญ รู้หรือไม่ว่าผู้ติดลิปบาล์มไม่เคยออกจากบ้านโดยไม่มีมัน ในความเป็นจริงชาวอเมริกันใช้จ่ายมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปีกับลิปบาล์มเพียงอย่างเดียวโดยเกือบ 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนใช้ลิปบาล์มทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ชาวอเมริกันแต่เป็นสิ่งจําเป็นระดับชาติที่ทุกคนควรมี

แถม! 4 เทรนด์การแต่งหน้าสนุก ๆ สำหรับช่วงเทศกาลนี้

1.Graphic Liner

กราฟิกไลเนอร์สามารถทําให้เปลือกตาของคุณสว่างขึ้นได้อย่างง่ายดายและนํารูปลักษณ์ใหม่ ๆ ที่สดใสมาสู่ใบหน้าของคุณ สําหรับผู้ที่เบื่อกับการกรีดตาแบบตาแมวคลาสสิกและกําลังมองหาการอัพเกรดเปลือกตาที่พิเศษและมีสีสันกว่าที่เคย การทำเปลือกตากราฟิกก็อาจจะคุ้มค่า หลาย ๆ คนอาจจะเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้วสำหรับการใช้กราฟิกไลเนอร์บน Instagram ที่กําลังเปลี่ยนดวงตาของพวกเขาจากสีดำให้เป็นสีที่สดใสตั้งแต่สีฟ้าครามและสีฟ้าอ่อนไปจนถึงเส้นสีม่วงระยิบระยับ 

• Floating liner ตามชื่อเลยค่ะว่า “ลอย” เนื่องจากการลากเส้นหัวและท้ายจะไม่บรรจบกับขอบตา
• Bold bottom liner เน้นความโดดเด่นของขอบตาล่างทำให้ได้ลุคที่สดใสและสนุกสนานเหมาะกับงานปาร์ตี้สุด ๆ 
• Multi-line liner ในทางทฤษฎีคุณสามารถใช้สีได้มากเท่าที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณกําลังพยายามจับคู่สิ่งนี้กับลุคอายแชโดว์คุณควรใช้เพียงสองหรือสามเส้นเท่านั้น

• Stamp liner การใช้อายไลน์เนอร์ที่เรียบง่ายแบบจุดหรือดาวง่าย ๆ  
• The Cleopatra มันเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ซับซ้อนสามารถจับคู่กับอายแชโดว์ที่น่าทึ่งเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ที่เปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างง่ายดาย
• Double-winged liner นี้อาจเป็นรูปแบบที่ช่วงนี้จะเห็นบ่อยที่สุดหากฟังดูคุ้นมันชื่ออายไลน์เนอร์แบบปีกคู่หรือที่เรียกว่า “หางปลา” 

2. ’90s Monochrome

การแต่งหน้าแบบโมโนโครมเกี่ยวข้องกับการใช้สีเดียวกัน (และมักเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน) กับหลาย ๆ ส่วนของใบหน้าเพื่อให้ริมฝีปากแก้มและดวงตามีสีตรงกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่สมดุลและง่ายดาย การแต่งหน้าแบบโมโนโครมมีตั้งแต่แบบอ่อนนุ่มไปจนถึงแบบคมชัดและละเอียดอ่อนไปจนถึงแบบสดใส ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้และการผสมรวมถึงความลึกของสีสามารถปรับเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่ต้องการต่อดวงตาแก้มและริมฝีปาก ทําไมการแต่งหน้าแบบโมโนโครมถึงเป็นที่นิยม? เนื่องจากผลิตภัณฑ์ความมัลติทาสกิ้งที่สามารถสร้างสุคสวยได้อย่างรวดเร็วและเพอร์เฟคคือเหตุผลว่าทําไมการแต่งหน้าแบบโมโนโครมจึงเป็นที่นิยมในหมู่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพลองคิดดูว่าช่างแต่งหน้าต้องพกผลิตภัณฑ์จํานวนมากขนาดไหนเพื่อรับมือกับโทนสีผิวและพื้นผิวของลูกค้าทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับงานพรมแดงเพราะความเร็วและความสะดวกคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าการแต่งหน้าทุกแบบจะเหมือนกันขึ้นอยู่กับเทคนิคการใช้งานด้วยเช่นกัน เทคนิคความงามนี้ใช้ได้กับทุกฤดูกาลและคุณไม่จําเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแแต่งหน้าเพียงเลือกผลิตภัณฑ์ในช่วงเฉดสีที่คุณต้องการและนําไปใช้เพื่อเน้นลักษณะใบหน้าของคุณแม้จะใช้ผลิตภัณฑ์เดียวกันในสองส่วนหรือแม้แต่สามส่วนเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ในโทนสีเดียวที่ดีขึ้นคุณสามารถเลือกธีมสีชมพูสดหรือกลิ่นอายสีน้ําตาลเข้มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 90 

3. Silver Sparkle

ใส่อายแชโดว์สีเงินแวววาวและเราไม่ได้หมายถึงสีเงินเพียงเท่านั้นแต่เป็นสีเงินที่มีเกร็ดกลิตเตอร์ระยิบระยับ อายแชโดว์สีเงินแวววาวนี้ได้ปรากฏทุกที่ตั้งแต่ฟีดโซเชียลมีเดียของเราไปจนถึงงานพรมแดงดัง ๆ ความแวววาวสีเงินช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความเย้ายวนใจและเปล่งประกายให้กับกิจวัตรการแต่งหน้าประจําวันตอนเย็นหรือเทศกาลของคุณมีบางสิ่งเกี่ยวกับมันที่มีเสน่ห์อย่างปฏิเสธไม่ได้ที่สร้างดวงตาที่เปล่งประกาย และส่วนที่ดีที่สุดคือเทรนด์การแต่งหน้าตาที่เปล่งประกายนี้ไม่จําเป็นต้องซับซ้อนสร้างความสวยงามได้อย่างเรียบง่าย 

4. Vampy Lipstick

เฉดสีลิปสติกแวมไพร์คืออะไร? เฉดสีลิปสติก Vampy เป็นสีเข้มที่เหมาะสําหรับฤดูหนาวหรือใบไม้ร่วงเนื่องจากอากาศหนาวเย็นทําให้ผิวซีดสีนี้จะทำให้การแต่งหน้าของคุณสวยงาม ในเฉดสีที่น่าสนใจก็จะมีเฉดสีเลือดวัว ไวน์ ลูกพลัม เบอร์กันดี้ ช็อกโกแลตบรอนซี่ หรือแม้แต่ลิปสติกสีดําก็เป็นเฉดสีที่สามารถทําให้คุณมีลุคแวมไพร์สไตล์โกธิคได้ไม่ว่าช่วงเวลาใดของปี