เราหลาย ๆ คนต่างเสียเงินจำนวนมากไปกับอาหารเสริมที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณซะเป็นส่วนใหญ่แต่ด้วยการทานที่ผิดวิธีอาจทำให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจสำหรับบางคนอาจเพิ่มปริมาณในการทานเพื่อให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดแต่หารู้ไม่ว่าเป็นการละลายเงินของคุณในร่างกายแล้วก็ขับออกมาเป็นฉี่โดยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นเพียงน้อยนิดเท่านั้นนอกจากนี้คุณยังเพิ่มภาระให้ร่างกายทำงานหนักขึ้นจึงอาจไม่ใช่เรื่องดีนักที่จะเน้นที่ปริมาณ คุณควรเน้นที่การทานอย่างถูกต้องเพื่อให้ร่างกายได้นำสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างคุ้มค่าวิธีที่ควรจะทำคือการเร่งการดูดซึมอาหารเสริมเหล่านี้ มีข้อมูลบางอย่างที่คุณควรรู้ตามไปดูด้านล่างกันเลยค่ะ
ทำไมอาหารเสริมถึงมีความจำเป็น?
การบริโภคอาหารขยะเยอะขึ้น
เราทุกคนต่างตระหนักดีว่าการบริโภคอาหารขยะสร้างผลร้ายให้กับร่างกายเป็นอย่างมาก รสชาติที่อร่อย หาซื้อทานได้สะดวก ทำให้การขยายตัวของอาหารขยะกลายเป็นเรื่องปกติเมื่อมันได้กระจายไปทั่วโลกมีโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ที่ดึงดูดใจจนเราก็ต้องอดใจไม่ไหว และเมื่อจะถามถึงโภชนาการที่ดี วิตามินหรือเกลือแร่ต่าง ๆ อาจเป็นสิ่งที่หายากในอาหารขยะเพราะพวกมันได้รับการแปรรูปอย่างหนักจนแทบจะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเลย พวกมันไม่ใช่อาหารออร์แกนิกหรือสดใหม่ มันจะเต็มไปด้วยเกลือ ไขมัน น้ำตาล หรือสารปรุงแต่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ!
แน่นอนในส่วนของเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปเช่นเนื้อแดงและสัตว์ปีกเนื้อของพวกมันเต็มไปด้วยฮอร์โมนที่เร่งการเจริญเติบโต ทั้งหมดนี้นอกจากจะไม่ได้มอบสิ่งมีประโยชน์ให้กับร่างกายแล้วยังมีสารเติมแต่งแย่ ๆ มากมาย
เราสัมผัสกับสารพิษมากกว่าผู้คนในอดีต
โลกอาจเป็นดาวเคราะห์ที่สวยงามมากเมื่อแสนปีที่ผ่านมานี้เอง จากวิวัฒนาการของมนุษย์ที่พัฒนาการขึ้นเรื่อง ๆ จากชุมชน กลายเป็นเมือง หรือมหานครจึงทำให้เป็นสถานที่ที่แตกต่างจากเมื่อบรรพบุรุษของเราอาศัยอยู่ที่นี่มาก ไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยากให้รู้ไว้ว่าทุกวันนี้เราทุกคนได้หายใจเอาสารพิษที่สร้างจากน้ำมือเราเองนี้แหละเข้าสู่ร่างกายนี้ยังไม่รวมสารพิษที่เราตั้งใจใส่เข้าไปในร่างกายของเรา ในโลกสมัยใหม่และที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาร่างกายของเราต้องการสารอาหารมากขึ้นในการจัดการและต่อสู้กับสารพิษเหล่านั้น นอกจากสารอาหารในแต่ละมื้อของเราไม่พอแล้วมลพิษยังซ้ำเติมร่างกายของเราดังนั้นการทานวิตามินและอาหารเสริมทุกวันสามารถช่วยเรื่องสารพิษที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่เราพบในชีวิตประจำวันของเราได้
อุตสาหกรรมอาหารมีการสร้างพันธุ์ผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ
ย้อนไปถึงต้นน้ำของอาหารที่เราทานอย่างเกษตรกรผู้ผลิตทั้งผลไม้ ผัก และเนื้อสัตว์ พวกเขามีการวิจัยและเรียนรู้เปลี่ยนแปลงหรือการดัดแปลงพันธุกรรมผลผลิตทั้งหมดเพื่อยอดขายไม่ว่าจะเปลี่ยนให้สีสดหรือหลากหลายขึ้น เพิ่มรูปลักษณ์ที่อวบอิ่มน่ากิน เพิ่มผลผลิตในการปลูกแต่ละครั้ง หรือทนต่อสภาพแวดล้อมและศัตรูพืชได้ดีขึ้นพออ่านมาก็อาจจะมีแต่ข้อดี แต่จริง ๆ แล้วการสร้างให้พืชเป็นลูกผสมหรือข้ามสายพันธุ์นั้นจะทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดลง สิ่งที่ดูเหมือนผลส้มอ้วน ๆ อร่อย ๆ มันไม่มีอะไรมากไปกว่าน้ำตาลและน้ำ ยิ่งเราพยายามแทรกแซงการเจริญเติบโตแบบธรรมชาติของพืชมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งรักษาคุณค่าทางโภชนาการน้อยลงเท่านั้น อาหารเสริมสามารถช่วยชดเชยการขาดสารอาหารจากผลไม้และการบริโภคผักประจำวันของเรา
แม้แต่น้ำที่เราดื่มก็ยังขาดแร่ธาตุ
รู้ไม่ว่าแม้แต่น้ำดื่มของเราก็ยังขาดแร่ธาตุ เพราะกระบวนการผลิตน้ำดื่มสมัยใหม่โดยการใช้ตัวกรองที่มากเกินไป ในอดีตเมื่อหลายศตวรรษแล้วมนุษย์เราอาศัยแหล่งน้ำที่อุดมด้วยสารอาหารเพื่อให้ได้แร่ธาตุที่จำเป็นที่ร่างกายของเรา องค์การอนามัยโลกเปิดเผยในปี 2005 ว่าแร่ธาตุที่สำคัญหลายอย่าง เช่น แมกนีเซียมถูกกำจัดออกจากน้ำในอเมริกาเหนือทั้งหมด
พื้นดินเสื่อมโทรม
ตามบันทึกของ USDA และรายงานประจำปี 2004 ในวารสาร American College of Nutrition ได้เขียนว่า ผักและผลไม้ในปัจจุบันมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำกว่าปี 1970 มากนั่นเป็นเพราะการทำฟาร์มเชิงพาณิชย์และที่สำคัญอย่างมากคือปุ๋ยหรือยาที่เราใช้ทำให้ดินของเราขาดสารอาหาร และไม่ใช่แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทั่วโลกด้วยดินมีสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์น้อยลงและขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นที่เราต้องการ อาหารที่เรากินคุณภาพจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดินที่เราปลูก
วิตามินของอาหารลดลงจากการขนส่ง
เมื่อเราเข้าในยุคอุตสาหกรรมพืชต่าง ๆ ทั่วโลกจึงเกิดการผลิตที่มีจำนวนมากเพื่อรองรับประชากรทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ผลิตผลจำนวนมากที่คุณเห็นวางอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นวางตามซูเปอร์มาเก็ตหากมันมีฉลากลองพลิกดูสักหน่อยว่ามันมาจากไหนจีนหรือญี่ปุ่นกันนะ? รู้มั้ยว่าการขนส่งจากระยะไกลและเก็บไว้เป็นเวลานานก่อนที่เราจะได้เห็นมันบนชั้นวางจะทำให้วิตามินบางอย่างในผลิตภัณฑ์บางชนิดหมดลง โดยเฉพาะผลไม้เพราะพวกเขาต้องเก็บเกี่ยวก่อนมันจะสุกเพื่อเวลาไปถึงประเทศปลายทางผลไม้เหล่านี้จะไม่เน่าดังนั้นภาพที่เราเห็นมันไม่ได้สดจริง ๆ หรอก ทางเลือกที่ดีที่สุดลองหันมาซื้อผลิตผลในท้องถิ่นแบบออร์แกนิกเป็นการรับสารอาหารที่มีคุณภาพได้แบบง่าย ๆ
คนทุกวันนี้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีนัก
เมื่อเราอายุมากขึ้นและอาหารในโลกของเราเปลี่ยนไป สุภาพของเราโดยเฉพาะระบบการย่อยอาหารและรักษาสารอาหารที่เราต้องการได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น เรายังใช้ยามากขึ้นด้วยซึ่งอาจรบกวนการดูดซึมสารอาหารได้ไม่เพียงพอ ตามข้อมูลของ Poliquin Group บอกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรสหรัฐมีกรดในกระเพาะซึ่งหมายความว่าอาหารที่เรากินไม่ได้รับการดูดซึมอย่างเหมาะสม ดังนั้นอาหารเสริมวิตามินสามารถช่วยชดเชยสารอาหารที่สูญเสียไประหว่างการย่อยอาหารและการบริโภค
คุณต้องการสารอาหารในการออกกำลังกาย
ร่างกายของคุณต้องการสารอาหารมากขึ้นเมื่อคุณออกกำลังกายเพื่อผลิตและฟื้นฟูพลังงานอย่างเหมาะสม อาหารเสริมสามารถเชื่อมช่องว่างระหว่างสารอาหารที่เราต้องการกับอาหารที่ขาดหายไป ยิ่งคุณออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายของคุณก็ยิ่งต้องการสารอาหารเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากอาหารแปรรูปมากเกินไปและการทำฟาร์มที่ไม่ดีทำให้เราได้รับโภชนาการที่ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐานมาก การทานอาหารเสริมเป็นขั้นตอนสำคัญสู่การมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น!
เทคนิคง่าย ๆ ในการทานอาหารเสริม
วิธีหนึ่งในการมีผิวที่เปล่งปลั่งดูดีอ่อนเยาว์คือการดูแลตัวเองด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการดีต่อสุขภาพแต่หากคุณไม่ได้รับมื้ออาหารที่เพียงพอในแต่ละวันควรเลือกสารอาหารเหล่านี้ เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นผิวของคุณก็จะยิ่งเปล่งปลั่งมากขึ้นเท่านั้น มีสารอาหารมากมายด้านล่างนี้
Healthy fats : ไขมันดี (Omega 3, 6)
ดีต่อสุขภาพและผิวพรรณ กรดไขมันจำเป็น (EFA) เรียกอีกอย่างว่าไขมันเพื่อสุขภาพเนื่องจากร่างกายของเราต้องการพวกมันแต่น่าเศร้าที่ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตได้เองต้องได้รับจากอาหารที่คุณกินเท่านั้นซึ่ง Healthy Fats แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กรดไขมันโอเมก้า 6 เป็นตัวสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยป้องกันความแห้งกร้านของผิวเพื่อให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้น
และกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงผิวพรรณ มีความสำคัญต่อความกระจ่างใสและเพิ่มความนุ่มนวลให้กับผิวของคุณ
ปริมาณในการบริโภคสำหรับผู้ชายอยู่ที่ 1,600 มก. ต่อวันส่วนสำหรับผู้หญิงอยู่ที่ 1,100 มก. ต่อวัน ที่จริงแล้วสามารถทานน้ำมันพวกนี้ได้ทุกช่วงเวลาของวัน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่สะดวกสำหรับคุณเนื่องจากประโยชน์ส่วนใหญ่ของน้ำมันนี้จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับติดต่อกันหลายเดือนขึ้นไป แต่มีผลข้างเคียงบางอย่างเช่นกรดไหลย้อนเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมัน เพราะน้ำมันที่กินเข้าไปจะลอยอยู่ด้านบนของกระเพาะอาหารจึงน่าจะมีส่วนทำให้เกิดผลข้างเคียงนี้ ดังนั้นเพื่อเพิ่มการดูดซึมในร่างกายให้สูงสุดคือการทานโอเมก้า 3 และ 6 พร้อมกับมื้ออาหารจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของกรดไขมันได้ดี หรือจะแบ่งน้ำมันออกเป็นสองรอบโดยการนำปริมาณในแต่ละวันมาหาร 2 ขนาดเพื่อทานในช่วงอาหารเช้าและก่อนนอนเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างได้ เช่น กรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อยได้ ท้องร่วง เรอ และคลื่นไส้
Protein : โปรตีน
ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนโปรตีนที่คุณกินกลายเป็นส่วนประกอบที่เรียกว่ากรดอะมิโน และนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อสร้างโปรตีนอื่น ๆ สามารถช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายรวมถึงคอลลาเจนและเคราตินที่สร้างโครงสร้างของผิวหนัง กรดอะมิโนยังช่วยขจัดผิวเก่าและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเช่นรังสียูวีหรืออยู่ใกล้ควันบุหรี่
ปริมาณในการบริโภคโปรตีนนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเรารวมถึงผลลัพธ์ที่คุณอยากได้เช่นเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อควรทาน 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สมมุติว่าน้ำหนัก 50 ปริมาณที่ควรทานคือ 100 กรัม หรือแค่ทานเพื่อซ่อมแซมทั่วไปให้ทาน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อรับประโยชน์ให้ร่างกายและผิวพรรณมีอยู่สองแบบคือ หนึ่งควรทานโปรตีนก่อนทานอาหารและสองคือการทานโปรตีนระหว่างมื้ออาหาร(ทานแทนของว่าง) โปรตีนจะทำให้คุณอิ่มได้นานจะทำให้คุณลดขนมและของว่างที่ไม่มีประโยชน์ทำให้คุณห่างจากน้ำตาลและไขมันลดผิวอักเสบพร้อมกับลดน้ำหนักได้อีกด้วยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
Vitamin A : วิตามินเอ
ผิวทั้งชั้นบนและชั้นล่างต่างก็ต้องการวิตามินเอ เพราะดูเหมือนว่ามันจะสามารถจะป้องกันความเสียหายจากแสงแดดได้โดยการขัดขวางกระบวนการที่ทำลายคอลลาเจน เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องผิวจากการถูกแดดเผา (แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับการทาครีมกันแดด) ช่วยให้ต่อมน้ำมันรอบ ๆ รูขุมขนทำงานและยังอาจช่วยรักษาบาดแผลและรอยถลอกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังใช้สเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ
ปริมาณวิตามินเอที่แนะนำ สำหรับผู้ชายต่อวันคือ 900 ไมโครกรัม (ไมโครกรัม)ที่เป็นผู้ใหญ่ และสำหรับผู้หญิง 700 ไมโครกรัม วิตามินเอสามารถละลายได้ดีในไขมันดังนั้นควรรับประทานร่วมกับแหล่งของไขมันโดยการทานผลิตภัณฑ์พร้อมมื้ออาหาร
Vitamin B : วิตามินซี
วิตามินซีพบได้มากในหนังกำพร้า (ชั้นนอกของผิวหนัง) เช่นเดียวกับในชั้นหนังแท้ (ชั้นในของผิวหนัง) มีคุณสมบัติต้านมะเร็งและสารต้านอนุมูลอิสระ มีบทบาทเพื่อส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรง นี่คือเหตุผลที่วิตามินซีเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักที่พบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่อต้านวัยจำนวนมากรวมถึงการรับประทานวิตามินซีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดดได้ด้วยโดยการลดความเสียหายของเซลล์และช่วยรักษาบาดแผลทางร่างกาย วิตามินซียังสามารถช่วยป้องกันสัญญาณแห่งวัย เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์คอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย ช่วยสมานผิวที่เสียหายช่วยลดเลือนริ้วรอย
คำแนะนำคือหากคุณพบว่าคุณได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอในอาหารคุณสามารถทานในปริมาณ 1,000 มก. ต่อวัน วิตามินซีจะเป็นสารอาหารที่ละลายน้ำได้ซึ่งจะดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่อคุณรับประทานขณะท้องว่างก่อนมื้ออาหารสัก 30-45 นาที
Zinc : สังกะสี
ชั้นนอกของผิวมีแร่ธาตุนี้มากกว่าชั้นที่อยู่ด้านล่างถึงห้าเท่า สังกะสีช่วยรักษาผิวของคุณหลังจากได้รับบาดเจ็บ มันเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาผนังเซลล์ให้แข็งแรงคงที่และเพื่อให้เซลล์แบ่งตัวเติบโตไปอย่างมีคุณภาพจึงจะช่วยส่งเสริมเกราะป้องกันผิวได้มากขึ้น สังกะสีอาจปกป้องผิวจากการทำลายของรังสี UV เนื่องจากลักษณะการทำงานที่สัมพันธ์กับโลหะอื่น ๆ ในร่างกายของคุณ เช่น เหล็กและทองแดง มันยังทำหน้าที่เหมือนสารต้านอนุมูลอิสระยิ่งเหมาะมากกับผิวที่เป็นสิว
ผู้ชายควรบริโภค 15 มิลลิกรัม (มก.) ต่อวัน ส่วนผู้หญิงควรบริโภค 12 มก. ต่อวัน อาหารเสริมสังกะสีจะได้ผลดีที่สุดหากรับประทานก่อนอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามหากอาหารเสริมสังกะสีทำให้คุณมีอาการบางอย่างเช่นปวดท้องก็สามารถรับประทานพร้อมกับอาหารได้ คุณควรบอกผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพของคุณหากคุณกำลังทานอาหารเสริมนี้เพื่อรับคำแนะนำที่มีประโยชน์บางอย่างเกี่ยวกับโรคที่คุณเป็นอยู่
เห็นมั้ยคะว่าเร่งการดูดซึมอาหารเสริมไม่ยากเลยแค่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของอาหารเสริมให้ดีขึ้นได้ประโยชน์ทั้งร่างกายและผิวพรรณสวยขึ้นแต่อย่างไรก็แล้วแต่ข้อมูลที่เรานำมาแนะนำนั้นเป็นข้อมูลที่เหมาะกับคนที่สุขภาพยังอยู่ในระดับที่ปกติหรือไม่มีโรคประจำตัว คนที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ประจำของคุณเพื่อความปลอดภัยของคุณ รวมถึงคนที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตรด้วยนะคะช่วงที่ฮอร์โมนหรือร่างกายของคุณมีการแปรปรวนและสุขภาพยังไม่เป็นปกติควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะบำรุงด้วยอะไรก็แล้วแต่เพื่อไม่ให้กระทบกับลูกน้อยของคุณ