ผิวขาวคือสิ่งที่สาวไทยส่วนใหญ่ใฝ่ฝันที่จะมีผิวที่สดใสและเปล่งปลั่งสมบูรณ์แบบไม่มีที่สิ้นสุด จนต้องแสวงหาวิธีการมากมายทั้งได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์มากมายที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั้งการให้ความชุ่มชื้น การผลัดเซลล์ผิว และการปกป้องแสงแดดแต่ก็เหมือนว่าจะไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม คุณมีทางออกแล้วคุณสามารถใช้กลูตาไธโอนเพื่อทำให้ผิวสวยขึ้น ซึ่งกลูตาไธโอนถูกผลิตภายในร่างกายเป็นโมเลกุลที่สำคัญมากสำหรับคุณ มันทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพและเกี่ยวข้องกับการทำงานของร่างกายที่แตกต่างกัน เช่น เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันที่ดีและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ แต่ประโยชน์ของกลูตาไธโอนที่แท้จริงคืออะไร? สารประกอบนี้ได้รับการศึกษาอย่างจริงจังในแวดวงวิทยาศาสตร์ เราจะเจาะลึกเพื่อค้นหาว่ากลูตาไธโอนคืออะไรกันแน่และประโยชน์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของกลูตาไธโอนที่แท้จริงคืออะไร? และหากกำลังสงสัยว่าการเพิ่มระดับกลูตาไธโอนของคุณคุ้มค่าหรือไม่และต้องทำอย่างไร ตลอดจนผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่เกิดจากการเสริมกลูตาไธโอน ด้านล่างนี้จะเป็นเนื้อหาข้อมูลเพิ่มเติมของมัน
กลูตาไธโอนคืออะไร?
กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งปกติแล้วจะผลิตโดยตับ แม้ว่ามันจะมีประโยชน์ทางการแพทย์หลายอย่างแต่สารประกอบที่ทรงพลังนี้สามารถทำงานมหัศจรรย์บนผิวของคุณได้กลูตาไธโอนมักจะแทรกระหว่างการทำงานที่สำคัญของร่างกาย เช่น การสร้างเนื้อเยื่อ ผลิตโปรตีนและสารเคมี ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและต่อต้านอนุมูลอิสระ กระบวนการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ดีต่อร่างกายของคุณเท่านั้นแต่คุณจะเห็นความแตกต่างในผิวของคุณด้วย เพราะสารต้านอนุมูลอิสระเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างหนึ่งของร่างกายในการป้องกันความเสียหายของเซลล์และทำให้คุณมีสุขภาพแข็งแรง สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดเช่นกลูตาไธโอนมีคุณสมบัติมากมายต่อผิวพรรณทั้งการต้านริ้วรอย ให้ผิวคงความสดใส สีผิวสม่ำเสมอและสว่างมากยิ่งขึ้น
กลูตาไธโอนมีความจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิดตั้งแต่แบคทีเรียไปจนถึงมนุษย์ ส่วนประกอบของมันจะประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ ซิสเทอีน ไกลซีน และกรดกลูตามิก กรดอะมิโนเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบสำคัญเพื่อลดการสูญเสียเซลล์ ช่วยฟื้นฟูวิตามินอีและซี ทำหน้าที่เป็นสารล้างพิษ ช่วยในเรื่องการเผาผลาญสารอาหาร และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างถูกต้อง
กลูตาไธโอนทำอะไรกับผิวของคุณ?
กลูตาไธโอนจะส่งผลดีต่อความยืดหยุ่นของผิว ริ้วรอย และการสร้างเม็ดสี ผลกระทบเหล่านี้เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของกลูตาไธโอนที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์
กลูตาไธโอนทำอะไรกับใบหน้าคุณ?
กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติและสารล้างพิษ สามารถควบคุมเมลาโทนิน ส่งผลให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น และสามารถส่งผลในเชิงบวกโดยทั่วไปต่อความยืดหยุ่นและความอวบอิ่มของผิว
10 ประโยชน์ของกลูตาไธโอน
1. ลดความเครียดจากออกซิเดชัน
ความเครียดที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันเกิดขึ้นเมื่อมีความไม่สมดุลระหว่างปริมาณของอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย พูดง่าย ๆ คือ “เมื่อเกิดอนุมูลอิสระเกิดขึ้นในร่างกายมาก ๆ แล้วเรามีสารต้านไม่พอก็จะทำให้ร่างกายเกิดออกซิเดชั่น” และเมื่อระดับความเครียดออกซิเดชันมีสูงเกินก็จะเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน มะเร็ง และโรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์ และอย่าลืมว่าเมื่อร่างกายเกิดการอักเสบก็จะทำให้ผิวพรรณไม่สดใสเช่นกัน ดังนั้นการเพิ่มกลูตาไธโอนให้กับร่างกายคือการเพิ่มปริมาณสารที่จะช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระจึงสามารถลดและป้องกันการเกิดความเครียดออกซิเดชันและช่วยลดความรุนแรงของโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย
2. ลดความเสียหายของเซลล์ในโรคตับ
ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในการล้างพิษและการเผาผลาญทั้งยาที่เราทาน ปัจจัยแย่ ๆ ด้านสิ่งแวดล้อม หรือส่วนประกอบอาหารอาจทำให้ตับถูกทำลายจากความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ตับจะป้องกันตัวเองจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เป็นอันตรายโดยการผลิตกลูตาไธโอนภายในเซลล์ของมัน การศึกษาในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าหนูที่มีกลูตาไธโอนต่ำจะเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับมากกว่า ส่วนในผู้ป่วยที่เป็นมนุษย์จะถูกรักษาโรคตับเรื้อรังกลูตาไธโอนดโญโดยการฉีดเข้าเส้นเลือดดำเมื่อร่างกายได้รับกลูตาไธโอนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ตับได้รับผลกระทบแย่ ๆ จากภายนอกน้อยลงสภาพตับของคุณจึงกลับมาทำงานได้ดีขึ้น
3. ปรับปรุงความไวของอินซูลิน
โรคเบาหวานจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือเมื่อร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินที่ผลิตได้จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกในปี 2019 โรคเบาหวานเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากถึง 1.5 ล้านคนต่อปี สมาคมนี้มีบทบาทสำคัญในการวิจัยเกี่ยวกับโรคเบาหวานซึ่งได้พบว่าความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันอาจเกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรืออาจทำให้เกิดการขาดอินซูลิน และได้พบว่ากลูตาไธโอนในระดับต่ำสามารถนำไปสู่ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและความต้านทานต่ออินซูลินที่เพิ่มสูงขึ้น และเมื่อเกิดการทดลองต่าง ๆ เพื่อเพิ่มปริมาณของกลูตาไธโอนให้มากขึ้นกับพบว่าสามารถลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและระดับอินซูลินสามารถทำงานได้คงที่และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นลดการสวิงของอินซูลินได้เป็นอย่างดี
4.ช่วยลดอาการของโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสันเป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับโรคทางระบบประสาทโดยมีอาการต่าง ๆ เช่น การสูญเสียการทำงานของควบคุมร่างกายและการลดลงของการรับหรือเรียนรู้ เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยเป็นอันดับสองของโลก แม้ว่าสาเหตุของโรคพาร์กินสันจะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่หากร่างกายมีความรุนแรงของมันเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียเซลล์ประสาทในสมองและการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่เพิ่มสามารถความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันได้อีกด้วยแต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสมองนั้นผลิตกลูตาไธโอนในระดับที่ต่ำกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการใช้กลูตาไธโอนในการรักษาโรคนี้สามารถปรับปรุงการทำงานของสมองในผู้ป่วยและได้แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่มีแนวโน้มที่ดีทั้งในการทดลองในสัตว์และการศึกษาทางคลินิกในผู้ป่วย
5. ลดความเสียหายของลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผล
ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคลำไส้อักเสบ เช่น อาการลำไส้ใหญ่บวมหรือเป็นแผล แม้ว่าสาเหตุของโรคเหล่านี้จะยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่สิ่งที่เป็นตัวการและมีบทบาทหลักที่สร้างความเสียหายของเซลล์คือจากปฏิกิริยาออกซิเดชันเจ้าเดิมนี้แหละ แน่นอนว่ามันจะทำให้การผลิตสารต้านอนุมูลอิสระลดลง นั่นจึงทำให้คนที่เสี่ยงว่าจะป่วยก็มีความเสี่ยงเพิ่มมากยิ่งขึ้นกลูตาไธโอนสามารถเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการบำบัดรักษาได้โดยการป้องกันความเสียหายของเซลล์ในฐานะที่เป็นระบบต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่สุด ในความเป็นจริงการเพิ่มระดับกลูตาไธโอนอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของเซลล์ในโรคต่าง ๆ ได้เพื่อป้องกันความเสียหายของเซลล์เพิ่มเติมโดยการป้องกันผลกระทบที่เป็นอันตรายของความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
6. อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคภูมิต้านตนเองได้
โรคภูมิต้านตนเองเป็นภาวะที่ร่างกายจะโจมตีตัวเองเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเซลล์ของร่างกายกับเชื้อโรคได้ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงตอบสนองด้วยทำลายเซลล์จนเกิดการสร้างกระบวนการอักเสบ และเป็นที่ทราบกันดีว่าร่างกายที่มีการอักเสบทำให้เกิดกระบวนการออกซิเดชันเพิ่มขึ้น และโชคร้ายที่โรคภูมิต้านตนเองบางชนิดก็มีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันนี้ด้วยระดับกลูตาไธโอนจึงสำคัญกับร่างกาย กลูตาไธโอนมีผลสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันสามารถควบคุมการอักเสบได้ในระดับหนึ่งโดยกระตุ้นหรือยับยั้งการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้สงบลง การเพิ่มระดับกลูตาไธโอนสามารถช่วยป้องกันความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและลดภาวะแทรกซ้อนทางระบบได้ อาจเป็นประโยชน์ในโรคภูมิต้านตนเอง เช่นโรคสะเก็ดเงิน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ผมร่วงเป็นหย่อม เส้นเลือดตีบ โรคลูปัส และโรคเบาหวาน
7. เพิ่มความคล่องตัวในโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
โรคหลอดเลือดแดงตีบตันเกิดจากการสะสมของไขมันสะสมในหลอดเลือดแดงอาจทำให้หลอดเลือดตีบตันและทำให้การไหลเวียนของเลือดน้อยลง การไหลเวียนเลือดที่ลดลงนี้ส่งผลกระทบต่อแขนและขาแต่บ่อยครั้งมักจะเกิดขึ้นที่ขาและอาจทำให้เกิดอาการปวดและชาได้ อาการจะเกิดขึ้นจากกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ เช่น การเดินแต่จะมีแนวโน้มลดลงหรือหายไปเมื่อได้นั่งพัก ผลที่ตามมาของการไหลเวียนของเลือดลดลงคือการขาดออกซิเจนสำหรับเซลล์ในร่างกายทำให้เซลล์เสียหายและเพิ่มปฏิกิริยาออกซิเดชัน ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เกิดขึ้นสามารถจัดการได้ด้วยระดับโมเลกุลของสารต้านอนุมูลอิสระที่เหมาะสม จากงานวิจัยชิ้นหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มระดับกลูตาไธโอนช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเดินได้ไกลขึ้นและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
8. การรักษาความผิดปกติของออทิสติก
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกเด็กประมาณ 1 ใน 160 คนมีโอกาสที่จะเป็นโรคออทิสติกและจากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคประเภทนี้มีระดับกลูตาไธโอนต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ มีหลักฐานมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญขอความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่มีความสามารถของสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดลงของสมองอาจส่งผลต่อการทำงานจากความเสียหายของเซลล์ การอักเสบเรื้อรัง โปรตีน และความเสียหายของดีเอ็นเอ งานวิจัยชิ้นหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าการเสริมกลูตาไธโอนจากการทานและทางผิวหนังมีผลดีต่อระดับกลูตาไธโอน ซึ่งอาจช่วยปรับสมดุลระหว่างปัจจัยออกซิไดซ์และสารต้านอนุมูลอิสระในสมอง
9. ป้องกันริ้วรอย
อายุเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวลเมื่อเราอายุมากขึ้นมันส่งผลกระทบต่อทุกเซลล์ในร่างกายแต่ผลที่มองเห็นได้มากที่สุดคือบนผิวหนัง เซลล์ของเราจะผลิตกลูตาไธโอนน้อยลงซึ่งหมายความว่ากลไกการต้านอนุมูลอิสระจะลดลง ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเสื่อมสภาพของเซลล์ได้รวดเร็ว วิธีหนึ่งในการชะลอกระบวนการนี้คือการมีระดับที่เพียงพอของกลูตาไธโอน จากการศึกษาพบว่าการเสริมกลูตาไธโอนมีผลดี เช่น ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และควบคุมการสร้างเม็ดสีจึงทำสามารถทำให้ผิวสว่างขึ้น
10. ปรับปรุงประสิทธิภาพการกีฬา
กิจกรรมของนักกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อที่รุนแรงนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของโมเลกุลออกซิเดชันและร่างกายต้องการใช้กลูตาไธโอนเพื่อต่อต้านผลออกซิเดชันที่เป็นอันตรายมากกว่าคนปรกติที่ไม่ได้ออกกำลังกาย จากการศึกษาพบว่าความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วได้โดยการเพิ่มระดับกลูตาไธโอน
วิธีเพิ่มระดับกลูตาไธโอนด้วยอาหารเสริม
วิธีหนึ่งที่คุณสามารถเพิ่มระดับกลูตาไธโอนได้คือการทานอาหารเสริมการทานวิตามินเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณควรทานเป็นประจำและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ อาหารเสริมเหล่านี้มีศักยภาพในการเพิ่มระดับกลูตาไธโอนของร่างกาย ได้แก่ วิตามินอี, วิตามินซี, วิตามินบี 6, ซีลีเนียม และ แมกนีเซียม
เพิ่มระดับกลูตาไธโอนด้วยอาหารที่เหมาะสม
การรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาร่างกายให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังสามารถรักษาระดับกลูตาไธโอนที่ดีได้อีกด้วย กลูตาไธโอนทำมาจากกรดอะมิโนดังนั้นการบริโภคโปรตีนมีอิทธิพลอย่างมากต่อระดับกลูตาไธโอนเช่น เนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม หรือแหล่งที่จะเสริมให้ร่างกายผลิตกลูตาไธโอนได้มากคือ “เวย์โปรตีน” และพบว่าประสิทธิภาพของระดับกลูตาไธโอนจะเพิ่มขึ้นเมื่อรวมกับการเสริมวิตามินอี โอเมก้า-3 สามารถพบได้ในปลา ถั่ว เมล็ดพืช (วอลนัทและเมล็ดเจีย) และน้ำมันพืช (น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันคาโนลา) รวมถึงผักใบเขียว ซีเรียลเสริม และผลิตภัณฑ์จากธัญพืชอุดมไปด้วยวิตามิน เช่น ไรโบฟลาวิน ซึ่งจำเป็นต่อการเปลี่ยนกลูตาไธโอนให้อยู่ในรูปแบบต้านอนุมูลอิสระที่ออกฤทธิ์ได้แก่ อัลมอนด์ ถั่วลิสง ผักโขม ฟักทอง และพริกหยวกแดง
อย่าลืมนะคะว่าทุกอย่างก็ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนเช่นกัน ดังนั้นอาจมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงจากกลูตาไธโอนในบางคนอาจมีอาการแพ้ หลอดลมตีบจนหายใจลำบาก ท้องอืด ปวดท้อง อาการคัน เกิดความเหนื่อยล้า มีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์หรือไต จากการศึกษาทางคลินิกจำนวนมาก ผลข้างเคียงมีความเกี่ยวข้องกับปริมาณของกลูตาไธโอนที่ได้จากการเพิ่มทางอาหารเสริม พูดง่าย ๆ คือ การได้รับปริมาณของกลูตาไธโอนที่ไม่เหมาะสมอาจไม่ปลอดภัยและเมื่อร่างกายของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันจึงเป็นการยากที่จะบอกว่าคุณควรทานในปริมาณเท่าใด ดังนั้นก่อนการทานอาหารเสริมเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ก่อนเท่านั้น prettyladybaby
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> น้ำเต้าปูปลา