การดูแลผิวนั้นสามารถทำได้มากกว่าการบำรุงด้วยครีมหรือการสครับผิวทางเลือกที่ดีเช่นอาหารที่เราทานก็เป็นปัจจัยสำคัญที่คอยสนับสนุนให้ผิวพรรณสวยขึ้นด้วยการเข้าไปช่วยการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายทั้งการบำรุง ฟื้นฟู และล้างสารพิษ ประโยชน์เหล่านี้เมื่อคุณเลือกทานจากอาหารที่มีประโยชน์มันจะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายและผิวพรรณเป็นอย่างมาก และเมื่อจะพูดถึงสิ่งที่เรียกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่าง “นมวัว”
เราได้ยินและเป็นความจริงที่ว่านมนั้นเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง แต่กลับพบว่าผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมอาจทำให้ผิวอักเสบมากขึ้น มีข้อมูลมากมายที่บอกว่าการดื่มนมหรือการบริโภคผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มาจากนมนั้นอาจทำให้คนที่มีสิวมีการอักเสบของสิวเพิ่มขึ้นและความมันเยิ้มบนผิวมากขึ้นจากฮอร์โมนในน้ำนม แต่เอาล่ะนมวัวนั้นยังมีทางเลือกอื่น ๆ ทดแทนได้ดีเช่นนมอัลมอนด์ แต่ถ้าในชีวิตของคุณต้องมีเนยเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารล่ะจะมีตัวเลือกไหนที่น่าสนใจที่จะดีต่อสุขภาพและผิวกันล่ะ? คำตอบคือ เนยกี(Ghee) แล้วทำไมกันล่ะ? มาหาคำตอบด้านล่างกันค่ะ
ต้นกำเนิด
มันถูกใช้ในวัฒนธรรมอินเดียและปากีสถานมาหลายพันปีแล้ว มันถูกคิดค้นขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เนยเน่าเสียในช่วงอากาศอบอุ่น-ร้อน นอกเหนือจากการปรุงอาหารแล้วยังใช้ในระบบการแพทย์ทางเลือกของอินเดีย “อายุรเวท” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Ghrita (เป็นยาอายุรเวทสมุนไพรที่ทําจากเนยกี)
เนยกี (Ghee) เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารของชาวอินเดียตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน เป็นส่วนผสมที่เหมาะกับการปรุงอาหารสำหรับคนที่ทาน Keto มาก มันเพิ่งจะได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วทุกมุมโลกเป็นอย่างมากบางคนยกย่องว่ามันในฐานะ “superfood” เป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถมาแทนเนยและมีประโยชน์มากกว่าอย่างไรก็ตามมีคนตั้งคําถามว่าเนยกีจะดีกว่าเนยปกติจริงหรือ มันจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในอนาคตหรือเปล่า? เรามาทำความรู้จักมันให้มากขึ้นกันค่ะ
เนยกี : GHEE คือ สิ่งที่ได้จากนมผ่านกระบวนการเปลี่ยนจาก นม > เนย > กี
เนยกี หรือ เนยใส เป็นเนยที่ได้จากการสกัดนมและน้ำออกจนเหลือแต่ไขมันเนยล้วนซึ่งเป็นไขมันดีที่มีความบริสุทธิ์มากที่อุดมไปด้วย วิตามินมากมาย ช่วยต้านการอักเสบ และบำรุงผิวพรรณได้ ด้วยกระบวนการที่ได้คัดเอานมและน้ำออกจากเนยปริมาณที่ได้ก็จะลดลงทำให้เนยกีมีราคาแพงกว่าเนยธรรมดาทั่วไป
ทำไมถึงเป็นตัวเลือกที่ดี
จุดเกิดควันสูง (smoke point) จุดเกิดควัน คือ จุดที่อุณหภูมิที่น้ำมันเกิดการเผาไหม้ การที่มีจุดเกิดควันสูงก็จะหมายถึงน้ำมันค่อนข้างทนต่อความร้อน หากน้ำมันที่เราใช้ไม่ทนต่อความร้อนทำให้การเกิดการเผาไหม้จะทำให้เกิดสารและอนุมูลอิสระที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดจะมีอุณหภูมิที่เกิดเป็นควันต่างกันจึงนำมาปรุงอาหารต่างกัน (รวมถึงน้ำมันที่ใช้ซ้ำจะมีอุณหภูมิที่เกิดควันต่ำจึงไม่ควรใช้) เมื่อเราทอดอาหารที่อุณหภูมิ 180 องศาพบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของน้ำมันที่เรียกว่า oxidatiomn ก่อให้เกิดสาร adehydes และ lipid peroxides ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และมะเร็ง น้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวจึงเกิดกระบวนการนี้ได้บ่อย แม้กระทั่งอุณหภูมิปกติก็มีการ oxidation แต่เป็นแบบช้าๆ เมื่อมีแสง อุณหภูมิสูง หรือความร้อน
เนยกี(Ghee) จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสําหรับการปรุงอาหารเพราะมีจุดควันสูงมาก – สูงถึง 485 องศาฟาเรนไฮต์ซึ่งสูงกว่าจุดควันของเนยที่ 350 องศาฟาเรนไฮต์ มันจึงสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ครบถ้วนแม้ว่าจะโดนความร้อนสูงก็ตาม อย่าลังเลที่จะใช้เนยกี(Ghee)สําหรับการผัด คั่ว และอบโดยไม่ต้องเสี่ยงกับมะเร็ง
การเก็บรักษาก็ง่ายและนานกว่าเนยปกติ เนยกี(Ghee) ได้รับการยกย่องว่าเป็นไขมันที่ค่อนข้างมีความบริสุทธิ์ ซึ่งหมายความว่าเนยตัวนี้ได้ผ่านกระบวนการที่คัดแยกให้เหลือแต่ส่วนที่มีประโยชน์จริง ๆ ให้เรานำมาประกอบอาหาร สิ่งนี้ทําให้มีรสชาติที่แตกต่างและเข้มข้น โดยไม่จําเป็นต้องแช่เย็นเพราะสามารถเก็บไว้ในที่แห้งและเย็นได้อย่างปลอดภัยเช่นตู้กับข้าว มันเปลี่ยนเป็นของแข็ง(ไข)ที่อุณหภูมิห้องแต่มันใช้เวลาน้อยในการละลายเมื่อเรานำไปทำอาหาร
ประโยชน์ของการใช้ ghee บนผิวหน้าคืออะไร?
ผิวนุ่มชุ่มชื้น
ริมฝีปากชุ่มชื้น
ปรับสมดุลน้ำมันบนผิว
ผิวรอบดวงตาเปล่งปลั่ง
ชะลอความชราของผิว
ผิวอ่อนเยาว์และเปล่งปลั่ง
เนยกีเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมที่สามารถมอบประโยชน์ต่อสุขภาพผิวมากมาย เป็นส่วนผสมในครัวเรือนที่เป็นความลับให้กับผิวที่สดชื่นและดูอ่อนเยาว์ การใช้ ghee สําหรับใบหน้าเป็นวิธีดูแลผิวที่เก่าแก่ในอินเดีย เนยกีได้กักเก็บสารอาหารที่มีประโยชน์มากที่สุดสําหรับผิวของคุณมันมีกรดไขมันที่จําเป็นต่อสุขภาพที่ดีมันมีไขมันที่ซับซ้อนอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 6 และ 9 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ มีวิตามินอีช่วยในการผลิตคอลลาเจนในผิวหนังโดยเฉพาะมันจะช่วยลดการอักเสบรวมถึงรักษาและต่อต้านริ้วรอย ทําให้ผิวอ่อนนุ่มและทําหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม มันมีวิตามินที่ละลายในไขมันเช่นวิตามิน A D และ K ที่มีประโยชน์ในการบํารุงผิว รวมถึงกลีเซอไรด์ ฟอสโฟลิปิด สเตอรอลอีกด้วย
~ เนยกีเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสําหรับผู้ที่มีความไวต่อแลคโตสหรือเคซีน ในขณะที่เนยมักจะดีกว่าสําหรับการปรุงอาหารที่อุณหภูมิสูง โดยจะให้รสชาติที่หอมหวานมากกว่าเนยปกติ ~
1. Ghee เพื่อผิวเปล่งปลั่ง
ทํามาส์กหน้าง่าย ๆ โดยใช้เนยกี แป้งเบซาน (Besan)หรือแป้งถั่วลูกไก่ (Chickpea Flour) และน้ำนมดิบเล็กน้อยผสมให้เข้ากันเพื่อการเกลี่ยลงบนผิวได้ง่ายมาส์กทิ้งไว้ให้แห้งสนิทก่อนที่จะล้างออกด้วยน้ำเย็นควรทํา 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ มันจะทําให้ผิวของคุณเปล่งปลั่งอย่างน่าอัศจรรย์ : กรดไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยบํารุงผิวและขจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มแป้งเบซานจะมีประโยชน์มากกับผู้ที่มีผิวมันแป้งเบซานจะช่วยขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนในซึ่งมันจะช่วยในการป้องกันสิวเช่นกัน
2. Ghee สําหรับริ้วรอย
แพทย์ผิวหนังได้พิสูจน์แล้วว่าแคโรทีนจาก ghee ทําหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสียหายจากความเครียดออกซิเดชันและทําให้ผิวของคุณมีสุขภาพดี นี่คือวิธีการรักษาง่าย ๆ ในการลดริ้วรอยด้วยเนยกี ให้ผสมเนยกีและน้ำผึ้งอย่างละครึ่งช้อนโต๊ะแล้วนวดส่วนผสมนี้บนใบหน้าของคุณและทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น วิธีการรักษานี้ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยคล้ำและสิวอีกด้วย : ทั้งเนยและน้ำผึ้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยให้ริ้วรอยจางลง การใช้เนยกีสําหรับใบหน้าช่วยให้คุณได้รับประโยชน์มากขึ้นจากวิตามินอีที่มีความสําคัญต่อการกระชับผิว ใช้ในการผลิตและรักษาคอลลาเจนในผิวของคุณเพื่อป้องกันริ้วรอย ความชุ่มชื้นของส่วนผสมทั้งสองนี้ยังมอบการดูแลผิวได้อย่างรวดเร็ว
3. Ghee สําหรับริมฝีปาก
ในการใช้เนยกีสําหรับริมฝีปากทําให้สครับริมฝีปากได้อย่างอ่อนโยนโดยใช้เนยกีและน้ำตาลในสัดส่วนที่เท่า ๆ กัน ให้ทาลงบนริมฝีปากและขัด เป็นวงกลมเบา ๆ ให้สังเกตว่าเนยถูกดูดซึมโดยผิวหนัง จากนั้นเพียงแค่เช็ดออกด้วยผ้าแห้งหรือกระดาษทิชชู : สูตรนี้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทันทีของ ghee สําหรับริมฝีปากและยังทําหน้าที่สครับที่เป็นมิตรกับผิว : การใช้เนยกีและน้ำตาลบนริมฝีปากช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ความชุ่มชื้นของเนยกีจะช่วยให้ผิวได้รับการบํารุงและอ่อนนุ่ม
4. Ghee สําหรับผิวที่สม่ำเสมอ
หากต้องการใช้เนยกีสําหรับปรับผิวโทนให้จางลงและโทนสีสม่ำเสมอให้ใช้เนยกี ขมิ้น และน้ำมะนาวสองสามหยดลงไปผสมให้เข้ากันแล้วทาให้ทั่วใบหน้าและปล่อยให้แห้งสนิทหรือประมาณ 10 ถึง 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น : ส่วนผสมนี้เหมาะสําหรับการทําให้ผิวขาวกระจ่างใสเนื่องจากทั้งขมิ้นชันและเนยมีสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสารพิษและเซลล์ผิวถูกขับออกจากผิวหนังจะช่วยให้จุดด่างดำหรือความไม่สม่ำเสมอต่าง ๆ ดูดีขึ้นโดยขมิ้นชันนั้นยังมีคุณสมบัติต้านจุลชีพจึงฆ่าเชื้อและมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยให้คุณผิวสดใสขึ้นนั่นเอง
5. Ghee เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์
นี้เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาอายุรเวทแบบดั้งเดิมของอินเดียที่รู้จักกันดีที่สุดคือการใช้เนยสําหรับการบำรุงผิวที่เรียกว่า shata dhauta ghritaมันเป็นหนึ่งในการฟื้นฟูผิวที่ง่ายที่สุด แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ โดยสามารถลดความแห้งกร้านของผิวได้ภายในวันเดียว นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในการปรับปรุงผิวขจัดรอยแผลเป็นและลดรอยคล้ำเช่นกัน
มันจะทําให้ผิวของคุณรู้สึกได้รับการบํารุงจากภายในสู่ภายนอกและเนียนกว่าที่คุณเคยรู้สึกถือว่าเป็นการรักษาผิวแบบอายุรเวทที่ยอดเยี่ยม Shata Dhauta Ghrita หนึ่งในสิ่งแรกที่คุณจะสังเกตเห็นเมื่อคุณลองคือวิธีนี้ครีมถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วและทําให้ผิวของคุณชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังเป็นครีมให้ความชุ่มชื้นในเวลากลางคืนที่สมบูรณ์แบบเพื่อฟื้นฟูผิว
โดยใช้เนย 1 ถ้วยและน้ำแร่ให้ผสมในชามทองแดง (ทองแดงทําหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อส่งเสริมการแยกไขมันและทองแดงเป็นที่รู้จักกันจะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบบนผิวหนังแต่หากคุณไม่มีชามผสมทองแดงให้ใช้ชามแก้วเพื่อไม่ให้เกิดปฏิกิริยา) เพิ่มเนยหนึ่งถ้วยของคุณลงในชามผสม จากนั้นเติมน้ำตีส่วนผสมด้วยมือหลังจากตีประมาณ 5 นาทีให้นําส่วนผสมของคุณไปผ่านตะแกรงเพื่อกรองน้ำส่วนเกินออกทำขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำ 100 ครั้ง หากคุณไม่สามารถทำได้ถึง 100 ครั้งให้ตั้งเป้าหมายอย่างน้อยล้างเนย 25 ครั้งการทำเช่นนี้ 25 ถึง 100 ครั้งจะทำให้กลิ่นของเนยจางหายไป เมื่อเสร็จแล้วให้ตักใส่กระปุกฝาปิดสนิดแช่ตู้เย็น มันสามารถอยู่ได้นานประมาณสามเดือนหากคุณเก็บไว้ในตู้เย็น
วิดีโอการทำครีมบำรุงจากเนยกี
ขอบคุณวิดีโอจากช่อง
https://www.youtube.com/channel/UCaKt8dvEIPnEHWSbLYhzrxg
วิธีทําเนยกี
เนยกีทําเองได้ง่ายๆ ที่บ้านโดยใช้ส่วนผสมง่าย ๆ เพียงส่วนผสมเดียว คือ เนยจืด
ในการเริ่มต้นให้ตัดเนย 1 เป็นก้อนเล็กเพื่อการละลายที่ทั่วถึงและพร้อมกันแล้วใส่ลงในกระทะหรือหม้อขนาดใหญ่ ให้ละลายด้วยความร้อนต่ํา เคี่ยวไปเรื่อย ๆ ให้ใช้ช้อนตักเอาโฟมหรือส่วนที่ลอยอยู่บนพื้นผิวออก ให้เคี่ยวประมาณ 15-20 นาทีจนน้ำและส่วนเกินระเหยออกจนได้ของเหลวที่ทองใสสวยงามแล้วดับไฟและปล่อยให้เนยเย็นลงสักครู่ก่อนตักลงในโถแก้ว สามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4 เดือนที่อุณหภูมิห้องและใช้งานได้นานถึง 1 ปีในตู้เย็น
วิธีการทำเนยกี
ขอบคุณวิดีโอจากช่อง https://www.youtube.com
คําถามที่พบบ่อย
การทา Ghee ทําให้เกิดสิวหรือไม่? : คําตอบคือไม่ สิวจะเกิดเมื่อรูขุมขนของผิวหนังถูกบล็อกเนื่องจากเซลล์ที่ตายแล้ว สิ่งสกปรก และความมัน มันนําไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรียโดยโพรพิโอนิแบคทีเรีย การติดเชื้อทําให้เกิดการอักเสบและบวมส่วน ghee มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ
เวลาที่ดีที่สุดในการใช้ Ghee? : ก่อนนอนจะให้ผลที่ดีที่สุด การบำรุงใบหน้าในชั่วข้ามคืนเป็นช่วงเวลาในการฟื้นฟูผิวที่ดีที่สุด ให้หยด ghee ลงบนใบหน้า 2-3 หยดแล้วใช้ปลายนิ้วของคุณนวดเบา ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 60 วินาที ปล่อยให้ผิวของคุณดูดซับเนย จะทิ้งไว้ข้ามคืนหรือจะล้างหน้าหลังจากนวด 20 นาทีก็ได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดขอแนะนําให้ทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อเป็นมาสก์ให้ความชุ่มชื้นในเวลากลางคืนมันจะบํารุง ชุ่มชื้น และสร้างชั้นป้องกันผิว มันมีวิตามินต่อต้านริ้วรอยและแทรกซึมชั้นลึกในผิวเพื่อให้ผลกระจ่างใส ช่วยในการกู้คืนผิวจากความเสียหายในชีวิตประจําวันที่เกิดจากมลพิษและแสงแดด เป็นครีมบำรุงที่
โดยรวมแล้วเนยกี(ghee) บริสุทธิ์และทําเองได้ง่าย มีความเข้มข้นมีคุณค่าทางโภชนาการและมีศักยภาพในการฟื้นฟูซ่อมแซมผิวของคุณเป็นส่วนผสมที่ใช้ได้ทั้งการทานและใช้โดยตรงกับผิวทําให้ผิวสดใส ลดเม็ดสีเมลานินและต่อสู้กับสัญญาณของริ้วรอย นี่เป็นเพียงบางส่วนของประโยชน์มากมายจากเนยกี มันจะมีประโยชน์สําหรับริมฝีปากแตก หนังศีรษะ ผมแห้ง ผิวแห้ง สิว และแน่นอนมีคุณค่าต่อร่างกายของคุณอีกด้วย แต่เพื่อประโยชน์ที่สูงสุดเราแนะนำให้ใช้เนยจากวัวมาทำเนยกี(แต่หากหาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร) เห็นหรือยังค่ะว่าเนยกีให้ประโยชน์ต่อผิวและสุขภาพได้สามารถนำมาใช้ได้อย่างง่ายดาย แล้วคุณจะรออะไรอยู่ล่ะลองไปทำดูค่ะ prettyladybaby
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> UFABET