แต่ละผลิตภัณฑ์ใช้เวลาที่แตกต่างกันออกไปเพื่อเปลี่ยนผิวให้ดีขึ้นมาดูกันว่าสกินแคร์แต่ละประเภทจะใช้เวลานานแค่ไหนกันถึงจะเห็นผลได้อย่างชัดเจน
จากรีวิวผลิตภัณฑ์บํารุงผิวมากมายมักจะโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์ พวกเขามักจะพูดเช่นผลิตภัณฑ์นี้สามารถลบเลือนริ้วรอยของฉันได้อย่างสมบูรณ์” หรือ “เซรั่มนี้ทําให้ฉันดูเหมือนผิวได้โบท็อกซ์ในชั่วข้ามคืน” ดังนั้นเมื่อคุณกำลังค้นหาสกินแคร์บํารุงผิวใหม่ ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเราหลายคนกําลังเข้าใจว่าการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นจะให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ฟื้นฟูผิวได้อย่างทันตาหรือแค่ช่วงข้ามคืนอย่างไรก็ตามความจริงแล้วผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะไม่ได้มอบผลลัพธ์ได้เร็วขนาดนั้น เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นมาฟังความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์ด้านการดูแลผิวอย่าง Dr. Zeichner จะช่วยเราแบ่งไทม์ไลน์ให้อย่างชัดเจนว่าคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวที่แตกต่างกันนานแค่ไหนก่อนที่มันจะมอบผลลัพธ์ที่ชัดเจนแก่ผิว อ่านต่อไปเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
ในความเป็นจริงแพทย์ผิวหนังที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแมนฮัตตัน Joshua Zeichner, M.D. กล่าวว่า “หนึ่งในข้อผิดพลาดส่วนใหญ่ที่ผู้คนทําเมื่อได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่พวกเขาคาดว่าจะได้เห็นผลลัพธ์ทันที ในขณะที่ความจริงคือมีผลลัพธ์บางอย่างสามารถตัดสินได้อย่างรวดเร็วเช่นว่าผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแห้งหรือไม่ ส่วนผลลัพธ์อื่น ๆ เช่น โทนสีผิว การลดริ้วรอย หรือเรื่องสิวนั้นต้องการเวลาในการทดสอบประสิทธิภาพมากขึ้น ความถี่การหมุนเวียนของเซลล์ผิวจะเกิดขึ้นประมาณทุก 28 วันดังนั้นจึงอาจใช้เวลาหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นในการเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า”
ระยะเวลาการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ แสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยประมาณ
Cleansers : น้ำยาทําความสะอาด
ผลลัพธ์ควรจะ – ทันที
เนื่องจากจุดประสงค์ของคลีนเซอร์นั้นค่อนข้างเข้าใจง่ายตรงไปตรงมา โดยมีหน้าที่เพื่อทําความสะอาดผิว สิ่งสกปรก และเครื่องสำอางจึงเหมาะสมที่จะคาดหวังผลลัพธ์ในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใบหน้าของคุณเต็มไปด้วยเมคอัพ คุณสามารถคาดหวังจากครั้งแรกที่ใช้ได้เลยจากความสามารถในการกำจัดคราบต่าง ๆ ได้อย่างหมดจดในทันที “คุณควรจะเห็นเครื่องสำอางและคราบต่าง ๆ ถูกลบออกจากผิวจนเห็นได้อย่างชัดเจน หากล้างออกมาแล้วยังหลงเหลือคราบต่าง ๆ ไว้บนผิวให้พิจราณาคลีนเซอร์ตัวอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม Frauke Neuser, Ph.D. นักวิทยาศาสตร์หลักชั้นนําของ Olay กล่าวว่ามันเป็นสิ่งสําคัญที่ไม่เพียงแต่จะดูว่าคลีนเซอร์จะทํางานได้ดีเพียงใดในการทําความสะอาดผิว แต่ยังสามารถประเมินได้ว่าผลิตภัณฑ์จะสามารถเข้ากันได้กับสภาพผิวของคุณหรือไม่ตัวอย่างเช่น หากผิวของคุณรู้สึกตึง คัน ระคายเคือง หรืออาจแห้งเกินไปหลังจากใช้คลีนเซอร์ตัวนี้ในการทําความสะอาดนี้คือผลลัพธ์ที่อาจรุนแรงสําหรับผิวของคุณเกินไป ตรงกันข้ามหากคลีนเซอร์ที่ถูกกับสภาพผิวของคุณมันจะสามารถทํางานได้ดี “ผิวของคุณควรรู้สึกหมดจดแต่ยังคงนุ่ม ไม่แห้งตึงและพร้อมที่จะเริ่มกิจวัตรการดูแลผิวที่เหลือของคุณ”
ซื้อเลย! https://www.central.co.th/
เราขอแนะนำ Sensibio Foaming Gel จาก Bioderma
อ่อนโยนและผ่อนคลายออกแบบมาเพื่อช่วยขจัดความมันส่วนเกินและคืนความกระจ่างใสให้กับผิวของคุณได้อย่างง่ายดาย เป็นสูตรที่มีวิตามินอีบํารุงเพื่อปลอบประโลม ซ่อมแซม และช่วยให้ริมฝีปากและรอบดวงตาทนต่อความแห้งกร้านได้มากขึ้น Coco Glucoside/Glyceryl Oleate เป็นสารออกฤทธิ์ที่เลียนแบบโครงสร้างของผิวทำให้ผิวมีความสมดุลยมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญสำหรับคนที่แต่งหน้าตัวนี้ยังจะช่วยทําความสะอาดและขจัดเครื่องสําอางออกจากใบหน้าและดวงตาอย่างอ่อนโยนปลอบประโลมและสยบการระคายเคืองได้ดีเยี่ยมจึงเป็นมิตรสำหรับรอบดวงตาและริมฝีปาก
Tonner : โทนเนอร์
ผลลัพธ์ควรจะ – ทันที
โทนเนอร์อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าใช้เวลานานเท่าใดจึงจะเห็นผลเพราะเราไม่ใด้ใช้มันเป็นตัวหลักในการบำรุงผิวมันแค่มีบทบาทในการสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้นเอง ที่จริงแล้วมันเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการทําความสะอาดและปรับความสมดุลยผิวเพื่อให้ผิวพร้อมที่จะรับการบำรุงในขั้นต่อไปเพื่อการซึมซาบที่ดี เช่น เซรั่มหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ ดังนั้นอาจจะแยกผลลัพธ์ได้ยาก อย่างไรก็ตามคุณยังคงสามารถสังเกตเห็นผลลัพธ์บางอย่างได้เช่นเดียวกับคลีนเซอร์คือจะให้ผลลัพธ์ทันทีในเรื่องของความสะอาดและความชุ่มชื้นผิวคุณจะสัมผัสได้ทันทีที่ใช้ผิวของคุณจะรู้สึกเบาสบายผิวและนุ่มลื่นเมื่อลงผลิตภัณฑ์ชิ้นต่อไปจะทำให้การเกลี่ยราบรื่นและสม่ำเสมออีกด้วย
“นอกจากเป็นการเคลียร์หรือทําความสะอาดผิวเป็นครั้งที่สองแล้ว บางแบรนด์ยังเพิ่มประสิทธิภาพบางอย่างอื่น ๆ เช่น การผลัดเซลล์ผิวเพื่อการต่อสู้กับรอยดํา หรือการบำรุงผิวเพื่อให้ผิวนุ่มและเรียบเนียน ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาประมาณสี่สัปดาห์หรือมากกว่าเพื่อจะเห็นผลที่ชัดเจน” Dr. Zeichner กล่าว
ซื้อเลย! https://www.konvy.com/huxley/huxley-secret-of-sahara-toner-extract-it-120ml-53642.html
เราขอแนะนำ Extract It Toner จาก Huxley
Huxley เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวที่ให้ความสําคัญกับคุณค่าทางธรรมชาติของผิวเป็นอันดับต้น ๆ มีส่วนผสมสําคัญที่ได้รับมาตรฐานจากซาฮาร่า ส่วนผสมเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระให้การบํารุงสูงและต่อต้านริ้วรอยขอ และโทนเนอร์นี้ถูกสร้างมากเพื่อผิวที่สมดุลและให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยปรับรักษาความสมดุลค่า pH ที่ดีที่สุดของผิวในขณะที่ทําให้ผิวกระจ่างใสและชุ่มชื้น เป็นสูตรที่มีส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติมากกว่า 90% รวมถึงน้ำมันเมล็ดแคคตัสจาก Sahara ที่ผ่านการรับรองว่าเพราะปลูกแบบออร์แกนิก เหมาะสําหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวที่บอบบางกับผิวที่แพ้ง่าย มันอ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษมีเนื้อสัมผัสที่หนืดเล็กน้อยทําให้ผิวชุ่มชื้น ปลอบประโลม สบายและเรียบเนียน ปราศจากพาราเบน แอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์หรือน้ำมันแร่
Serum : เซรั่ม
ผลลัพธ์ควรจะ – 1 เดือน
เซรั่มถือว่าเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดหนึ่งที่มีน้ำหนักเบา ซึมง่าย แต่มีความเข้มข้นของส่วนสผมสูงซึ่งมีประโยชน์และวัตถุประสงค์ที่หลากหลายตั้งแต่การลดจุดด่างดํา แก้ผิวหมองคล้ำให้สดใส และลดการเกิดริ้วรอย โดยส่วนใหญ่มักจะใช้ส่วนผสมอย่างเช่นกรดไฮยาลูโรนิก วิตามินซี กรดไกลโคลิก เป็นเบสของเซรั่ม(ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์) เพราะนอกจากการให้ความชุ่มชื้นแล้วสารเหล่านี้ยังจะช่วยให้คุณเกลี่ยลงบนผิวได้อย่างง่ายดายและซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นเซรั่มที่มีสูตรเข้มข้นและทรงพลัง แต่โดยทั่วไปก็อาจใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนเพื่อให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
หากคุณกําลังลองใช้เซรั่มสําหรับการแก้ปัญหาผิวบางอย่าง เช่น การลดจุดด่างดํา Dr. Zeichner แนะนําให้ถ่ายภาพระหว่างการใช้งานเพื่อเปรียบเทียบความคืบหน้าของผิวว่าดีขึ้นหรือเปล่า โดยให้ถ่ายภาพบริเวณที่ผิวมีปัญหาก่อนที่จะลองใช้เซรั่มจากนั้นถ่ายภาพจุดเดียวกันอาทิตย์ละครั้งเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือนเพื่อดูว่าคุณสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้หรือไม่หากไม่ ควรเปลี่ยนเซรั่มด่วนเลยค่ะ!
ซื้อเลย! https://www.esteelauder.co.th/
เราขอแนะนำ Advanced Night Repair จาก Estee Lauder
ผลิตภัณฑ์สูตรต่อต้านริ้วรอยที่ถือว่าได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของโลก ขายดีทุกประเทศทั่วโลก เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แรก ๆ ที่ใช้กรดไฮยาลูโรนิกที่มีคุณภาพสูงเป็นส่วนผสมหลัก กรดไฮยาลูโรนิกที่มีประสิทธิภาพสูงนี้สามารถดูซับน้ำได้ถึง 1,000 เท่าและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นทําให้ผิวนุ่มและเรียบเนียน เหมาะสําหรับผิวที่ขาดน้ำซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องเผชิญในชีวิตประจําวันเนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง แสงแดด และฤดูร้อนตลอดทั้งปี (ถึงแม้บ้านเราจะมี 3 ฤดูก็เถอะ) และยังมี Bifida ferment lysate (เป็นสารที่เกิดจากการหมักแบคทีเรียที่ชื่อ Bifidobacterium มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิว) เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมหลักในขวดนี้ที่รู้จักกันว่ามีโปรไบโอติกที่ดีสําหรับผิวมันจึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของผิวในขณะที่ปกป้องและซ่อมแซมได้เร็วยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังมีไตรเปปไทด์จะทำหน้าที่เมื่อคอลลาเจนสลายไป เปปไทด์เป็นสารที่ส่งสัญญาณกระตุ้นไปยังเซลล์ของคุณเพื่อสร้างคอลลาเจนให้มากขึ้นจึงทําให้คุณดูอ่อนเยาว์และยืดหยุ่นมากขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้ยังให้สารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงเพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทําลายผิวของเราทุกวัน เหมาะมากกับการซ่อมแซมผิวมันจึงมีคำว่า Repair อยู่บนชื่อไงล่ะ!
Moisturiser : มอยเจอร์ไรเซอร์
ผลลัพธ์ควรจะ – ทันที
มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดีควรเป็นเหมือนการดื่มน้ำเย็นในวันที่อากาศร้อน หมายถึงสรรพคุณที่สามารถบรรเทาการระคายเคืองได้ทันที ดังนั้นคุณควรจะสังเกตเห็นสรรพคุณของมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของคุณและบรรเทาความแห้งกร้านได้ทันที อย่างไรก็ตาม Dr. Zeichner กล่าวว่า “คุณควรเช็คผิวของคุณตลอดทั้งวันเพื่อตรวจสอบว่ามอยเจอร์ไรเซอร์นั้นสามารถให้ความนุ่มและชุ่มชื้นระหว่างวันหรือไม่ “วิธีที่ดีในการบอกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ตัวใหม่ของคุณทํางานบนผิวคุณได้ดีหรือไม่คือผิวของคุณจะรู้สึกนุ่มลื่น ชุ่มชื้น และความมันน้อยลง ผิวของคุณจะมีความผ่องใส รูขุมขนจะยังดูเรียบเนียนไม่แสดงอาการกระหายน้ำนี้คือผลลัพธ์ของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดี แต่หากผิวของคุณหมองคล้ำ รูขุมขนขยายใหญ่ หรือดูเหมือนกลีบดอกไม้ที่ห่อเหี่ยวเฉาจากความร้อนและแสงแดดคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้นหรืออาจพิจารณาการเปลี่ยนไปใช้มอยเจอร์ไรเซอร์อื่นที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของผิวของคุณมากขึ้น”
คนที่มีประเภทผิวแห้งอาจต้องการส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่สูงขึ้นเพื่อการแก้ไขปัญหาผิวให้สําเร็จลุล่วงโดยการเลือกส่วนผสมที่มีกลีเซอรีน ไนอะซินาไมด์ และกรดไฮยาลูโรนิก เป็นส่วนผสมหลัก แล้วมันจะแก้ไขปัญหาผิวของคุณได้อย่างยอดเยี่ยม มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ทรงพลังจะสามารถให้ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการบรรเทาความแห้งกร้าน เช่น กรดไฮยาลูโรนิกเหมือนฟองน้ําที่ดึงน้ําไปเติมยังชั้นผิวชั้นนอกมันจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและอวบอิ่มได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากผิวอวบอิ่มขึ้นแล้วมันยังจะช่วยให้เห็นการปรับปรุงทันทีในระดับหนึ่งของริ้วรอยและความกระจ่างใสของผิวอีกด้วย
ซื้อเลย! https://www.kiehls.co.th/th_TH/
เราขอแนะนำ Ultra Facial Cream จาก Kiehl’s
นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมาตั้งแต่เปิดตัวในปี 2005 และเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ขายดีอันดับ 1 ของ Kiehl’s เหมือนเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ทุกบ้านจะต้องมี มันได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าที่ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง มันจะเสริมสร้างพลังของเกราะป้องกันผิวด้วยความชื้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ (ได้รับการทดสอบทางคลินิกว่าเกิดการฟื้นตัวของเกราะป้องกันผิวที่เร็วขึ้น 55 เท่า) Ultra Facial Cream ทําให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้นทันที 2.3 เท่าแม้ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งที่สุดทําให้ผิวรู้สึกนุ่มเรียบเนียนและดูมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อทาแล้วผิวจะรู้สึกชุ่มชื้นสดชื่นโดยไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เนื้อเนียนนุ่มเป็นรองพื้นผิวอย่างสมบูรณ์แบบสําหรับการแต่งหน้าในขณะที่ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน
Retinal : เรตินอล
ผลลัพธ์ควรจะ – 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน
ส่วนผสมที่ได้รับความนิยมนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงสําหรับประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย – แต่อย่าปล่อยให้โฆษณาทั้งหมดหลอกให้คุณคิดว่าริ้วรอยทั้งหมดของคุณจะหายไปในชั่วข้ามคืน ในขณะที่คุณอาจสังเกตเห็นผลลัพธ์บางอย่างภายในสัปดาห์แรกหรือมากกว่าเมื่อเริ่มใช้งาน Dr. Zeichner กล่าวว่า “เพื่อดูการปรับปรุงและลดเลือนเนื้อผิวและเส้นของริ้วรอยให้ดีขึ้นควรใช้ เรตินอลเป็นประจําเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ขึ้นไป
ผลลัพธ์ทันทีที่คุณจะได้รับเมื่อคุณทาเรตินอลลงบนผิวมักจะทำให้ใบหน้าคันหรือระคายเคืองไม่ต้องตกใจเพราะเนื่องจากเรตินอลเป็นสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพในการเร่งการสร้างผิวใหม่ดังนั้นผิวของคุณจึงอาจต้องใช้เวลาสําหรับในการทําความคุ้นเคยกับผลกระทบบางอย่างของมัน ซึ่งอาจนําไปสู่ความแห้งกร้าน รอยแดง และเป็นขุย นี้คือกระบวนการปกติที่จะเกิดขึ้น สิ่งนี้จะดีขึ้นหลังจากประมาณสองสัปดาห์แรก มันอาจจะมีอาการเหมือนแพ้ผลิตภัณฑ์และหากคุณทนกับการระคายเคืองนี้ไม่ไหวก็ควรหยุดและเปลี่ยนไปให้เรตินอลที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า
ซื้อเลย! https://www.lazada.co.th
เราขอแนะนำ Retinol 0.5% In Squalane จาก The Ordinary
มีส่วนผสมจาก Retinol ในปริมาณปานกลางเพื่อให้ประโยชน์ต่อต้านริ้วรอยที่ดีเยี่ยม เป็นสารละลายที่ปราศจากน้ำที่มีเรตินอลบริสุทธิ์ 0.5% ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยที่ดีขึ้น เรตินอล (หรือที่เรียกว่าวิตามินเอ) กระตุ้นการต่ออายุเซลล์ผิวเพื่อให้ผิวทําหน้าที่และดูอ่อนเยาว์สามารถช่วยลดการปรากฏตัวของริ้วรอย และความเสียหายของผิวทั่วไป เรตินอลทํางานโดยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ผิวและการผลิตคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพช่วยต่อต้านความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเรตินอลอาจทําให้เกิดการระคายเคือง ในระยะแรกของการรักษาเราขอแนะนําให้คุณเริ่มต้นด้วย Retinol 0.2% In Squalane เพื่อปรับให้ผิวของคุณสร้างความคุ้นชินและอดทน ต่อ Retinol และหากคุณใช้แล้วไม่เกิดรอยแดงหรือการระคายเคืองก็เปลี่ยนเป็น Retinol 0.5% In Squalane ได้เลยค่ะเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น คำเตือน***ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอลไม่แนะนําให้ใช้ในระหว่างตั้งครรภ์หรือเมื่อให้นมบุตร ใช้ SPF ทุกวันเสมอเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล
Acne : ผลิตภัณฑ์สิว
ผลลัพธ์ควรจะ – 1 ถึง 2 เดือน
ต้องขอบอกว่าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสิวนั้นเป็นหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะต้องใช้เวลานานกว่าปัญหาผิวแบบอื่นเพราะปัญหาสิวบนผิวนั้นมันลึกสู่ชั้นผิวมากกว่าปัญหาอื่น ๆ “เมื่อพูดถึงการรักษาสภาพเช่นสิวมันอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการที่จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น มันจะดีขึ้นในชั่วข้ามคืนแน่นอน” Dr. Zeichner กล่าว
เนื่องจากสิวสามารถมีสาเหตุที่หลากหลายตั้งแต่ความเครียด กรรมพันธุ์ ฮอร์โมนและอื่น ๆ เขามักจะบอกให้คนไข้ที่มาปรึกษาเกี่ยวกับสิวของเขาพยายามดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสิวทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองเดือนจึงจะสามารถตัดสินได้ว่ามันจะช่วยหรือเหมาะกับตัวคุณเองหรือเปล่า
ซื้อเลย! SMOOTH E Acne Hydrogel Plus 10g (kingpower.com)
เราขอแนะนำ Acne Hydrogel Plus จาก SMOOTH E
เจลแต้มสิวที่ออกฤทธิ์เร็ว รักษาจุดด่างดําได้อย่างรวดเร็วช่วยขจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวและลดการอักเสบได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยไฮโดรเจลครอสโพลิเมอร์ถึง 4% กรดซาลิไซลิกถึง 3.2% ไฟโตสตรอลและสารสกัดจากธรรมชาติอีก 5% มันจะเข้าไปทํางานเพื่อรักษาผิวที่มีการอักเสบอย่างมากและลดรอยแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“มันเป็นสิ่งสําคัญที่จะต้องทำการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์เป็นกิจวัตรประจําวันเพราะการยอมแพ้ให้กับผลิตภัณฑ์ที่เร็วเกินไปนั้นหมายความว่าคุณจะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่สูงสุดและทิ้งเงินของคุณไปโดยเปล่าประโยชน์” ดังนั้นหากผลิตภัณฑ์บํารุงผิวใหม่ยังไม่เปลี่ยนผิวของคุณทันทีอย่าเพิ่งท้อแท้ มันขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์ สรรพคุณที่นำเสนอ สภาพผิว และปัจจัยอื่น ๆ อาจใช้เวลาจากไม่กี่นาทีไปจนถึงไม่กี่เดือนที่เราถึงจะได้สัมผัสกับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่ทางแบรนด์เหล่านั้นได้โฆษณาเอาไว้ prettyladybaby
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตเว็บตรง