Bacne (Back Acne)เป็นสิวที่หลังทำไงดีอยากใส่เสื้อเปิดหลังแต่ผิวไม่เป็นใจ? 

รีวิวครีมบำรุงผิว

อะไรเอ่ยที่จะห้ามไม่ให้คุณใส่ชุดเดรสเว้าหลังอย่างมั่นใจในช่วงวันหยุดยาว แน่นอนว่าคำขอร้องของคนอื่นอาจไม่มีผลเท่ากับ สิวที่หลัง! มันค่อนข้างน่าหงุดหงิดเมื่อเจอชุดที่ใช่แต่ผิวคุณไม่เป็นใจและการแก้ไขฟื้นฟูผิวหลังนั้นไม่ได้ง่ายเหมือนสิวบนใบหน้าเท่าไหร่นัก หากคุณคิดที่จะปกปิดมันด้วยเครื่องสำอางอย่างการทาคอนซีลเลอร์แล้วละก็อาจเป็นงานมหึมาเลยทีเดียว สำหรับบางคนสิวที่หลังก็ยังขยายไปถึงไหล่และหลังส่วนล่างด้วยโอ๊ยน่าหงุดหงิดที่สุดเลย! และมันค่อนข้างท้าทายที่จะกำจัดสิวออกจากบริเวณเหล่านี้ทั้งหมดแต่ไม่ต้องกังวลใจเรามีวิธีที่หลากหลายเพื่อจะบรรเทาปัญหานี้

Bacne (Back Acne)1

สิวที่หลังคืออะไร?

สิวที่หลัง (หรือ “bacne”) มีจุดเริ่มต้นเหมือนกับสิวบนใบหน้าของคุณซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดสิวเป็นผลมาจาก “การอักเสบเล็ก ๆ ในรูขุมขน” ผิวหนังจะอักเสบก็ต่อเมื่อมีการรบกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น แบคทีเรีย, ลิพิด (lipids) หรือฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) แต่โดยส่วนใหญ่ของคนที่เป็นสิวมักจะมาจากแบคทีเรียที่เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วเข้ากับน้ำมัน [sebum] ภายในรูขุมขนเมื่อทั้งสองรวมกันรวมจึงกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีเพื่อการเติบโตของแบคทีเรีย

Bacne (Back Acne)2

คนผิวมันเสี่ยงที่จะเจอปัญหาสิวมากกว่าเพราะเมื่อน้ำมันบนผิวผลิตออกมามากจะทำให้ระบบการผลัดเซลล์ผิวไม่เป็นไปตามปรกติและเมื่อได้รับการร่วมมือกับแบคทีเรียเหล่านี้จะสร้างแผ่นฟิล์มบาง ๆ บนผิวหนังจนขัดขวางกระบวนการหลุดลอกของชั้นผิวหนังตามปกติและก่อให้เกิดการอุดตันนี้จึงเป็นที่มาของ “สิว” ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยที่เวลาขอคำแนะนำในเรื่องสิวข้อต้น ๆ ที่จะต้องทำคือลดความมันและการผลัดเซลล์ผิว 

Bacne (Back Acne)3

แต่สำหรับสิวที่หลังนอกจากน้ำมัน เซลล์ผิวที่ตาย สิ่งสกปรกและแบคทีเรียแล้วมักจะได้รับการกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น เมื่อเหงื่อสะสมอยู่ในเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์กีฬาระหว่างออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากเสื้อผ้าจะเสียดสีกับผิวหนังที่ขับเหงื่อซึ่งนำไปสู่การอักเสบของรูขุมขนเพิ่มเติมจนเกิดสิวหรือทำให้คนที่เป็นสิวอยู่แล้วมีผิวที่แย่ลงได้

Bacne (Back Acne)4

สิวที่หลังต่างจากสิวหน้าอย่างไร?

การได้ยินคำว่า “สิว” เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะคิดว่ามันเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดในร่างกายก็ตามในขณะเดียวกันแพทย์ผิวหนังแต่ละคนก็ยอมรับว่าการรักษาอาจมีความคล้ายคลึงกัน แต่ต่างกันตรงที่สิวที่หลังมักจะรักษาได้ยากกว่าเนื่องจากความหนาของผิวและการเข้าถึงบริเวณนี้ยาก “ผิวด้านหลังมีความหนามากและหากเกิดรอยใด ๆ ที่ด้านหลังมักอยู่ลึกและมีเม็ดสีที่เข้มกว่า ดังนั้นการรักษาเฉพาะที่จึงยากขึ้นที่จะซึมลึกเพียงพอและอาจต้องได้รับการรักษาเป็นเวลานาน”

Bacne (Back Acne)5

ประเภทของสิวที่ปรากฏในแต่ละพื้นที่ของร่างกายที่อาจแตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวทางการรักษา โดยทั่วไปแล้วสิวจะมีสองประเภทที่แตกต่างกันสำหรับสิวบนหน้าแล้วมักจะเป็นสิวประเภท comedones และ pustules Comedones เป็นสิวหัวดำและสิวหัวขาวที่คุณน่าจะคุ้นเคยมากที่สุดส่วนสิวที่หลังมักจะเป็นสิวตุ่มหนองและเป็นสิวอักเสบซะส่วนใหญ่

ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับสิวที่หลัง

เช่นเดียวกับปัญหาการดูแลผิวส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับสิวที่หลังอาจทำให้คุณเข้าใจคลาดเคลื่อนและกิจวัตรประจำวันบางอย่างที่ไม่เหมาะสม

Bacne (Back Acne)6

ทานของมันทำให้เกิดสิว

: ไม่ใช่อาหารไขมันสูงแต่เป็นที่ระดับน้ำตาลในเลือด

คงเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าอาหารบางชนิดที่ทำให้สิวของคุณแตกออกโดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันมาก ๆ เช่น พิซซ่าหรือช็อกโกแลต โดยจริง ๆ แล้วตัวการสำคัญที่แผงร่างพวกมันอยู่คือ ค่าดัชนีน้ำตาล (GI หรือ glycemic index) ซึ่งเป็นมาตราส่วนที่ใช้กำหนดว่าอาหารบางชนิดเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้าเป็นอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง ร่างกายของคุณไม่ต้องทำอะไรเลยแค่เอาน้ำตาลออกจากกระเพาะแล้วเปลี่ยนให้เป็นพลังงานได้เลยทำให้ค่าน้ำตาลพุ่งซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากเป็นอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำแสดงว่าร่างกายของคุณต้องมีกระบวนการหลายอย่างในลำไส้แล้วจะเพิ่มระดับน้ำตาลแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งดัชนีน้ำตาลสูงไม่ดีสำหรับสิวเพราะอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง(GI) จะถูกย่อยอย่างรวดเร็วโดยร่างกายและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอาจทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มการผลิตน้ำมันซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเกิดสิว

Bacne (Back Acne)7

เป็นสิวจะต้องขัดผิว

: การใช้สครับกับผิวที่เป็นสิวเป็นเรื่องที่ผิดแต่เหมาะกับผิวเมื่อสิวหายแล้ว

การใช้สครับขณะที่ผิวยังคงพุพองและอักเสบอาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้สิวของคุณแย่ลงได้พยายามอย่าขัดถูหรือรบกวนผิวหนังเพิ่มเติมด้วยความรุนแรงจากเม็ดสครับจะเป็นการดีที่สุด

Bacne (Back Acne)8

ผิวต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ

: ผิวเป็นสิวไม่ต้องการความชุ่มชื้นมากเกินไปอาจะกระทบกับรูขุมขนที่อักเสบ

ปกติแล้วความมันบนผิวและความชุ่มชื้นนั้นเป็นคนละส่วนกันก็จริงแต่หากคุณกำลังเป็นสิวการให้ความชุ่มชื้นเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว ลองมองหาผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้นที่เบาสบายผิว ปราศจากน้ำมันไม่สร้างชั้นฟิล์มหน้าที่อาจส่งเสริมให้สิวหายช้าลง

Bacne (Back Acne)9

การบีบสิวทำให้หายเร็วขึ้น

: หากคุณกดหรือบีบเองความเสี่ยงที่จะมีแผลจากสิวนานขึ้น

นี้เป็นเรื่องที่น่าดึงดูดใจเห็นทีไรก็อดใจไม่ไหว แต่การบีบหรือกดสิวไม่ได้ช่วยขจัดปัญหาได้เสมอไปการบีบหรือกดสามารถผลักแบคทีเรียเข้าสู่แผลแทนที่หัวสิวได้ และถึงขั้นเป็นหนองลึกลงไปในผิวหนังซึ่งอาจทำให้บวมและแดงมากขึ้น และเมื่อแบคทีเรียเข้าสู่แผลก็จะทำให้แผลนั้นนำไปสู่การติดเชื้ออักเสบหายช้าและอาจทำให้เกิดแผลเป็นที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียนได้

Bacne (Back Acne)10

สิวจะเกิดขึ้นในช่วงวัยแรกรุ่นเท่านั้น

: ในคนที่จะเข้าวัยทอง คนท้องหรือคนที่มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนจะมีสิว

ผู้ใหญ่บางคนยังคงเป็นสิวได้ทั้งในช่วงอายุ 30, 40 และ 50 ปี ผู้ใหญ่ยังมีโอกาสเป็นสิวได้ แพทย์ผิวหนังเรียกสิ่งนี้ว่า “สิวที่เริ่มมีอาการในผู้ใหญ่” พบได้บ่อยในสตรีวัยหมดประจำเดือน

ผู้หญิงมักจะเป็นสิวผู้ใหญ่บ่อยกว่าผู้ชาย และหากคุณเป็นสิวตอนโตอาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุ เช่น ระดับฮอร์โมนที่ผันผวนระหว่างตั้งครรภ์และวัยหมดประจำเดือน หลังจากหยุด(หรือเริ่ม)ยาคุมกำเนิด และเมื่อบางทีได้รวมกับน้ำมันส่วนเกินและแบคทีเรียยิ่งทำให้มีอาการของสิวแย่กว่าวัยรุ่นเสียอีก

Bacne (Back Acne)11

สรุปเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสิว Bacne

1. ต่อมไขมัน ผิวด้านหลังที่ทำงานมาก

2. รูขุมขนอุดตัน จากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

3. สุขอนามัยที่ไม่ดี ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว หรือเสื้อผ้าสกปรก เช่น ไม่เปลี่ยนชุดออกกำลังเหงื่อออกหลังออกกำลังกาย

4. การเสียดสี เสื้อผ้าที่ไม่สบายตัวซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียดสีกับผิวหนัง

5. บริโภคน้ำตาลมาก เกินไปและแคลอรี่ที่เกินในแต่ละวันอาจทำให้เกิดการอักเสบและสิว

6. กรรมพันธุ์ ทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวมากขึ้น

7. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ในผู้ที่ตั้งครรภ์ ช่วงวัยเจริญพันธุ์ (วัยแรกรุ่น) เข้าวัยทอง

8. ยา บางชนิดรวมทั้งคอร์ติโคสเตียรอยด์อาจทำให้เกิดสิวที่หลังหรือทำให้แย่ลงได้

9. ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โลชั่นและครีมบางชนิดสามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวได้

10. ความเครียดและความวิตกกังวล ร่างกายของคุณจะสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น เมื่อระดับคอร์ติซอลสูงขึ้น ร่างกายของคุณจะผลิตไขมัน(ซีบัม)มากขึ้น

ส่วนผสมที่ในสกินแคร์ที่ควรมองหา

Bacne (Back Acne)12

Benzoyl peroxide : เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์

เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์เป็นยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิว เพราะมันสามารถละลายน้ำมันได้ดีจึงช่วยลดการสะสมของไขมันและสิ่งสกปรกตามรูขุมขนให้หมดจดได้ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่มักใช้เป็นส่วนผสมแล้วให้ประโยชน์สูงสุดจะมีครีมที่ใช้ทาเฉพาะที่แต่เมื่อคุณจะต้องแต้มอาจเป็นเรื่องยากในการเอื้อมมือทาเอง ดังนั้นมันอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเมือคุณอยู่คนเดียว อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับล้างออกข้อดีอีกข้อหนึ่งคือคุณสามารถใช้ได้ทุกวันจนสภาพผิวดีขึ้นเพราะมันมีความเข้มข้นน้อยและปลอดภัยกว่าแบบครีม

Bacne (Back Acne)13

Salicylic acid : กรดซาลิไซลิก

กรดซาลิไซลิกจะทำลาย “กาวเหนียว” ที่มีทั้งเซลล์ผิวที่ตายรวมกับไขมันที่เป็นติดกับผิวมันจะเข้าไปทำงานด้วยการละลายโปรตีนที่ยึดเซลล์ผิวที่เหนียวเหนอะหนะทำให้เกิดการช่วยคลายรูขุมขน ช่วยให้ผิวสามารถผลัดเซลล์ผิวได้ง่ายขึ้นและช่วยให้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ซึมลึกเข้าสู่ผิวได้ง่ายเพราะหากผิวหนังยังมีชั้นกาวเหนียว ๆ นี้อยู่บนผิวการทาครีมบำรุงก็จะไร้ประโยชน์

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายมากมายในท้องตลาดที่มีเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์และกรดซาลิไซลิกคุณควรเลือกใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นโดยให้เลือกความเข้มข้นต่ำไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยต่อเกราะป้องกันผิว และควรชโลมและทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีเวลาซึมเข้าสู่ผิวได้เล็กน้อยแล้วค่อยล้างออก เมื่อเช็ดตัวเสร็จอย่าลืมการใช้ครีมกันแดดด้วยเพราะผิวอาจบางลงเล็กน้อย

ส่วนผสมธรรมชาติที่ควรมองหา

Bacne (Back Acne)14

Tea Tree Oil : น้ำมันทีทรี

น้ำมันทีทรีเป็นตัวเลือกที่นิยมในการรักษาสิวเนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านจุลชีพและแบคทีเรียต่าง ๆ ช่วยจัดการกับสิวบนผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นบนใบหน้าหรือหลังมันสามารถบรรเทาอาการแดง บวม และอักเสบได้จึงช่วยต่อสู้กับสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แผลที่เกิดจากสิวหายไวขึ้นและอาจช่วยป้องกันและลดรอยแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย การใช้น้ำมันทีทรีคุณไม่ควรทาน้ำมันทีทรีกับผิวหนังโดยตรง สิ่งสำคัญคือต้องเจือจางน้ำมันด้วยน้ำมันตัวพา เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันอัลมอนด์โดยมีสัดส่วนการผสมคือ สำหรับคนที่มีผิวแห้งให้ลองน้ำมันทีทรี 1 ถึง 2 หยดต่อน้ำมันตัวพา 12 หยด ส่วนคนที่มีผิวมันมาก ๆ หรือมีกิจกรรมที่ไม่เอื้อต่อการทาน้ำมันให้ใช้น้ำมันทีทรีให้เจือจางน้ำมันทีทรี 1 หยดต่อเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ แล้วทาให้ทั่วหลังหรือเฉพาะบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ปล่อยให้ผิวดูดซับให้แห้งแล้วค่อยสวมเสื้อผ้า

Bacne (Back Acne)15

Apple Cider Vinegar : แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (ACV) เป็นยาสามัญประจำบ้านฉุกเฉินชั้นเยี่ยมสามารถแก้ได้ตั้งแต่อาการเสียดท้อง การควบคุมความอยากอาหาร ไปจนถึงการกำจัดไฝ มีการใช้งานที่หลากหลายและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่น ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง มีแบคทีเรียที่เรียกว่า Propionibacterium acnes หรือ Cutibacterium acnes มีส่วนทำให้เกิดสิว แต่เนื่องจาก Apple Cider Vinegar มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้ เพราะมันมีกรดหลายชนิดที่ช่วยกันออกฤทธิ์ เช่น กรดอะซิติก กรดแลคติก กรดแกลลิก กรดโปรโตคาเทจูอิก กรดคลอโรเจนิก จึงมีผลการฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ส่งผลต่อ P.acne (Propionibacterium acnes) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดแลคติคที่ช่วยลดการปรากฏตัวของรอยแผลเป็นจากสิว

Bacne (Back Acne)16

Green Tea Rinse : น้ำชาเขียว

สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวช่วยลดการอักเสบและการเกิดสิวบนผิวหนังสำหรับสิวที่หลัง ให้ชงชาเขียวและปล่อยให้เย็น ให้ใช้สำลีก้อนชุบน้ำชาแล้วทาลงบนบริเวณที่ได้รับผลกระทบ หรือจะเทใส่ขวดสเปรย์ก็ได้เพื่อความสะดวกแล้วทิ้งไว้ค้างคืน ชาเขียวช่วยควบคุมการผลิตไขมันและควบคุมการเกิดสิว

Bacne (Back Acne)17

Mint Leaves : ใบสะระแหน่

ใบสะระแหน่มีเมนทอลซึ่งเป็นยาแก้ปวดและต้านการอักเสบตามธรรมชาติ มันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและตุ่มสิวที่บวม ให้นำใบสะระแหน่มาตำแล้วใช้พอกทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น

Bacne (Back Acne)18

Cinnamon and Honey Mask : มาส์กอบเชยและน้ำผึ้ง

มีคุณสมบัติที่พบในอบเชยและน้ำผึ้งคือการต้านแบคทีเรียและต้านการอักเสบทำให้ช่วยในการรักษาสิวและยังทำให้รอยแผลเป็นจางลง ให้ลองบดอบเชยให้ละเอียดหนึ่งช้อนและเติมน้ำผึ้งสองช้อน เพิ่มน้ำมะนาวหนึ่งช้อนและผสมให้เข้ากัน ใช้มาสก์นี้กับร่างกายแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

Bacne (Back Acne)20

Witch Hazel : วิชฮาเซล

การใช้ Witch Hazel จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตันอย่างล้ำลึก เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่พบในวิชฮาเซลจึงช่วยรักษาอาการบวมและอักเสบได้เช่นกัน ให้ทาวิทช์ฮาเซลที่หลังแล้วทิ้งไว้สักครู่ อย่าล้างออกเพราะจะต้องถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวของคุณ ทำซ้ำ 2-3 ครั้งต่อวัน

Bacne (Back Acne)21

Epsom Salt : ดีเกลือฝรั่ง

ในเกลือ Epsom มีแมกนีเซียมมากมันจะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี จึงช่วยบรรเทาอาการแดง อักเสบและคันที่ผิวหนัง สำหรับสิวที่หลังให้เติมเกลือ Epsom ผสมกับน้ำที่ใช้อาบในถัง เมื่อคุณสระผม ล้างหน้าหรือถูสบู่จนล้างตัวด้วยน้ำสะอาดเสร็จก็ให้ใช้น้ำในถังนี้อาบอีกรอบโดยไม่ต้องล้างมันจะทำหน้าที่เป็นโทนเนอร์หลังอาบน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรคนั่นเอง ให้ทำตามขั้นตอนนี้สองครั้งหรือสามครั้งต่อสัปดาห์

Bacne (Back Acne)

Aloe Vera Gel : เจลว่านหางจระเข้

นี่อาจเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวเพราะเจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ไม่เพียงป้องกันสิวแต่ยังช่วยในการรักษาบาดแผลและลดการอักเสบ ถูเจลว่านหางจระเข้บนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบปล่อยทิ้งไว้จนรู้สึกแห้งแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็นจะทำให้ผิวของคุณรู้สึกสดชื่นขึ้น 

Bacne (Back Acne)23

อย่าลืมนะคะสิวที่หลังนั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีปัญหามาจากความสะอาดและการเสียดสีเป็นหลักพยายามรักษาผิวให้สะอาดอยู่เสมอใช้ผลิตภัณฑ์ล้างร่างกายที่ปราศจากน้ำมันซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดสิว อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดหลังออกกำลังกายเสมอ รวมถึงการใช้ผ้าปูที่นอนและผ้าขนหนูที่สะอาดเพื่อไม่ให้แบคทีเรียสะสมพยายามซักพวกมันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอีกอย่างหนึ่งสำหรับคนที่เป็นสิวเลยคือ การบีบ กด แกะ แคะ เกามันอาจจะทำให้คุณรู้สึกดีแต่รู้ไม่ว่ามันสามารถทำลายเซลล์ผิวลึกที่นำไปสู่สิวติดเชื้อรุนแรงได้มันจะนำมาซึ่งจุดด่างดำฝังลึกหรืออาจเลวร้ายกว่าจกากการเกิดแผลเป็น หากคุณพลาดข้อนี้ไปโปรดเตรียมตัวดี ๆ สำหรับการฟื้นฟูผิวหลังจากที่สิวหาย แต่หากสิวที่หลังยังคงอยู่หรือกลับมาเป็นอีกควรพบแพทย์ผิวหนังพวกเขาอาจแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่น ๆ ที่ต้องสั่งโดยแพทย์เพื่อรักษาสิวขั้นรุนแรง หรือคุณอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือยารับประทานอื่น ๆ

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG