เมื่อเราจะถามคุณว่าวัยผู้ใหญ่นั้นควรจะมีอายุอยู่ประมาณเท่าไหร่! หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกถึงความห่างไกลของตัวเลขอาจเดากันไปว่า 40 35 หรือแม้แต่ 30 ปี แต่อันที่จริงแล้วคนส่วนใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะนับที่ 25 ปีเป็นหลักเพราะเมื่อคุณข้าม 25 คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในร่างกาย โดยเฉพาะผิวของคุณความชราจะเริ่มปรากฏผ่านผิวหนังของเรา เราพบความหมองคล้ำ ความแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่นทั้งที่ไม่เคยปรากฏบนผิวของเราเมื่อหลายปีก่อน เมื่อเราอายุมากขึ้นผิวของเราต้องการมากกว่าการทำความสะอาดและให้ความชุ่มชื้นคุณจะต้องมีกิจวัตรการดูแลผิวที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการดูแลที่จำเป็นในการชะลอกระบวนการชราอย่างไรก็ตาม เราสามารถช่วยคุณด้วยเคล็ดลับการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อให้ดูอ่อนเยาว์หลังจากอายุ 25 ปีได้คุณต้องดูแลผิวของคุณอย่างเหมาะสมเพื่อลดสัญญาณเหล่านี้และป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ข้างล่างนี้คือเกร็ดความรู้และเคล็ดลับการเลือกสกินแคร์ป้องกันผิวแก่ก่อนวัยสำหรับวัยหลัง 25 ปี ที่จะช่วยให้คุณรักษาสุขภาพผิวของคุณให้แลดูอ่อนเยาว์และผิวมีชีวิตชีวา
1. Clean Your Face : การทำความสะอาดใบหน้า
- ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฟองน้อย ๆ
เราจะเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวเพราะแน่นอนว่าทุกคนจะต้องผ่านกระบวนการนี้ทั้งตอนตื่นและก่อนนอน การทำความสะอาดผิวที่เหมาะกับผิววัยผู้ใหญ่นั้นจะมีความแตกต่างไปนิดหน่อย แม้ว่าในวัยรุ่นคุณจะมีผิวที่เป็นสิวหรือมีความมันมากกว่าคนอื่นแล้วเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มอบความหมดจดแต่ค่อนข้างรุนแรงกับผิวแต่เมื่ออายุของคุณก้าวข้ามมาในวัยผู้ใหญ่ความอ่อนโยนอาจจะต้องเป็นตัวเลือกที่มาเป็นอันดับแรกโดยตัวเลือกที่ดีและเหมาะสมคือผลิตภัณฑ์ที่มีฟองน้อยหรือไม่มีฟอง
ไม่ผิดหรอกที่คุณมีความรู้สึกอยากใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่หมดจดหรือใช้ความรุนแรงเพื่อทำให้การล้างหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อวัยรุ่นคุณอาจจะไม่เจอปัญหามากนักแต่ในความเป็นจริงระยะเวลาที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฟองสะสมมาหลายปีอาจจะไม่เหมาะกับวัยที่เปลี่ยนไปทำให้ผิวแห้งและเพิ่มความเสี่ยงในการเหี่ยวย่นได้
เคล็ดลับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฟองน้อยหรือไม่มีฟองให้รู้สึกสะอาดหมดจดคือการนวดและให้เวลาเพื่อให้ผลิตภัณฑ์จะซึมลงบนใบหน้าของคุณพยายามตั้งเป้าไว้ 20 ถึง 30 วินาทีในการล้าง หรือคุณมีผิวที่มันมากก็สามารถนวดผลิตภัณฑ์บนผิวได้นานยิ่งขึ้นโดยไม่ทำร้ายผิว ลองสังเกตได้เมื่อคุณเช็ดหน้าให้แห้งจะไม่รู้สึกแห้งตึงแต่กลับนุ่มและสะอาดกว่าที่คิด
2. Tone your face : การใช้โทนเนอร์
- เลือกใช้ hydrating toner
การใช้โทนเนอร์เป็นส่วนสำคัญของกิจวัตรการดูแลผิว เมื่อคุณทำความสะอาดผิวแล้วผิวของคุณจะหมดจดทำให้ผิวพร้อมรับทั้งประโยชน์และโทษจากสภาพแวดล้อมหากคุณปล่อยให้ผิวแห้งและไม่ปรับสภาพอาจทำให้เกิดการแห้ง รูขุมขนเหี่ยวเฉา ผิวดูขาดน้ำได้ แต่หากคุณใช้โทนเนอร์หลังการล้างหน้า(แม้จะไม่ได้ตามด้วยการทาครีมบำรุงก็ตาม) มันจะช่วยในการปิดรูขุมขนกระชับผิวและขจัดความมันที่อาจหลงเหลืออยู่หลังการทำความสะอาด พร้อมทั้งยังจะเป็นการเติมเกราะป้องกันผิวได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
โดยโทนเนอร์ก็จะแบ่งตามคุณประโยชน์ได้อีกหลายประเภท เช่น โทนเนอร์ลดสิว โทนเนอร์ปรับผิวสว่างใส โทนเนอร์ผิวอ่อนวัย โดยโทนเนอร์ที่คนหลังวัย 25 ปีควรใช้คือโทนเนอร์ที่เติมเต็มความชุ่มชื้น เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาผิวของเราอาจจะเจอผลิตภัณฑ์ที่มีความรุนแรงสะสมมานานจึงทำให้ผิวหม่นหมองไม่สดใสเท่าที่ควร
ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของเปปไทด์ ไกลโคลิปิด น้ำมันเมล็ดโรสฮิปหรือน้ำมันโจโจบา ไดเมทิโคน และกรดไกลโคลิก หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์และพยายามหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีกลิ่นหอม เช่น น้ำกุหลาบหรือผลไม้รสเปรี้ยวน้ำหอมอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ โทนเนอร์เหล่านี้มักจะมีข้อความว่า “สารให้ความสดชื่น” หรือ “สารเพิ่มความกระจ่างใส”
3. Add a facial serum : เซรั่มแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะของคุณ
- เลือกเซรั่มที่เหมาะและรักษาปัญหาผิวเฉพาะที่แตกต่างไปในแต่ละคน
ที่ผ่านมาเราได้บอกให้คุณเลือกสิ่งที่อ่อนโยนกับผิวของคุณไปแล้วทั้งการทำความสะอาดผิวและการปรับสภาพผิวมาในขั้นตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะแก่การแก้ไขปัญหาเฉพาะของแต่ละคนทั้งคนที่มีริ้วรอย สิว รอยดำ รูขุมขนกว้าง หรือแม้แต่ความหมองคล้ำ
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารรักษาผิวบางอย่างในผลิตภัณฑ์ทุก ๆ ตัวอาจจะมีผลกระทบที่มากเกินไป เช่น การเลือกใช้ชุดผลิตภัณฑ์ที่ลดสิวทั้งชุดมันก็จะทำให้ผิวของคุณแห้งตั้งแต่การล้าง โทนเนอร์ แม้แต่การบำรุง นี้จึงเป็นเหตุผลที่ดีที่ควรเลือกใช้เซรั่มเพียง 1 ตัวเด็ดเพื่อแก้ไขปัญหาผิวเพื่อการไม่รบกวนผิวมากเกินไปนั่นเอง
แน่นอนว่าสาววัยหลัง 25 ปีเป็นต้นไปไม่ควรพลาดโอกาสที่จะเตรียมผิวด้วยเซรั่มดี ๆ สักตัวทั้งในส่วนของการแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุดหรือแม้กระทั่งการเตรียมผิวให้แข็งแรงก่อนที่อีลาสตินและคอลลาเจนในร่างกายของเราจะลดน้อยลง แน่นอนว่าเซรั่มเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการชะลอความชราได้อย่างน่าพอใจเลยล่ะ
4. Moisturizing Your skin : การให้ความชุ่มชื้นเป็นสิ่งจำเป็นและควรจะทำ
- เลือก Moisturizer ที่แก้ปัญหาผิวเฉพาะของแต่ละคนเช่นกัน
เมื่อเราอายุมากขึ้นความชุ่มชื้นและความนุ่มฟูของผิวก็ลดลงมากเมื่อเวลาผ่านไปผิวจะเริ่มรู้สึกแห้งตึงดังนั้นคุณต้องให้ความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีที่จะช่วยให้ผิวคุณเรียบเนียนขึ้นตลาดเต็มไปด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ลองหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรเฉพาะสำหรับสภาพผิวของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์ของคุณให้ความชุ่มชื้นสูงสุดและปกป้องผิวจากริ้วรอยก่อนวัย
เมื่อคุณส่งสารสกัดที่มีประสิทธิภาพสูงของเซรั่มตรงเข้าสู่เซลล์ผิวแล้วควรเสริมด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเป็นการเคลือบผิวเป็นการเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซรั่มให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
สำหรับคนผิวมันที่มีความเข้าใจว่าผิวมันไม่ต้องการมอยส์เจอร์ไรเซอร์นั้น ผิด! เพราะทุกคนต้องให้ความชุ่มชื้นกับใบหน้าไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบไหนก็ตาม เป็นขั้นตอนสำคัญในกิจวัตรของทุกคนในการบำรุงผิวและให้ความชุ่มชื้น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเหมาะเป็นอย่างยิ่งเพราะยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดดของคุณด้วย
5. Choose a great eye cream : เลือกอายครีมที่ชอบสักตัว
- เลือกอายครีมที่มีความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
สำหรับคนที่อายุ 25 – 35 ปี ที่ถือว่าเป็นช่วงที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ในช่วยต้นปัญหาผิวที่ตามมาเหมือนเงาของเรานั้นคือผิวรอบดวงตาที่ดูหม่นหมองไม่สดใส สาเหตุที่เกิดมาจากทั้งกาลเวลาที่สะสมผิวเสียและทั้งสภาพผิวภายในและภายนอกที่สูญเสียความชุ่มชื้นลงมาก ผิวบริเวณนี้มีไขมันน้อยมากรวมทั้งบอบบางสุด ๆ จึงมักจะแสดงถึงปัญหาผิวได้ไวกว่าส่วนอื่น ๆ
จะเป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่รุนแรงซึ่งมีส่วนผสมเช่นเปปไทด์จากพืชที่ช่วยซ่อมแซมผิวให้มองหาครีมบำรุงรอบดวงตาที่จะทำให้บริเวณรอบดวงตาสว่างขึ้นเพื่อลดรอยคล้ำใต้ตา และครีมบำรุงรอบดวงตาที่จะให้ความชุ่มชื้นแก่บริเวณรอบดวงตาเนื่องจากมักจะแห้งบ่อย ไม่ว่าผิวของคุณจะเป็นแบบใด เพื่อช่วยต่อต้านรอยคล้ำและป้องกันอาการบวมของเส้นเลือดหรือสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารสกัดจาก คาเฟอีนและเบอร์รี่จะป้องกันความเสียหายจากรังสียูวี หรือผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตาของคุณ
โดยควรให้ความสำคัญกับบริเวณรอบดวงตาเป็นพิเศษทั้งลดการสัมผัสแรง ๆ การป้องกันแสงแดดและการแสดงอารมณ์ โดยควรใช้ครีมรอบดวงตาทุกเช้าและทุกคืนโดยการทาด้วยนิ้วนางวนรอบ ๆ อย่างเบามือ
ต้องยอมรับว่าช่วงอายุ 20 ปีเป็นต้นมาเป็นช่วงที่ใครหลาย ๆ คนลำบาก เพราะอยู่ในช่วงระหว่างการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การหาอาชีพ ความสัมพันธ์ และชีวิตทางสังคมของคุณ คุณมักจะได้รับการทดสอบทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผิวของคุณเนื่องจากนิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ความกังวลเกี่ยวกับฮอร์โมน และมลภาวะคุณลักษณะ โดยลักษณะปัญหาผิวทั่วไปที่โดดเด่นอีกอย่างของผู้หญิงส่วนใหญ่ในวัย 20 กลาง ๆ คือความหมองคล้ำ สิ่งสำคัญคือต้องมอบความรักให้กับผิวเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อลดปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้ารับรองว่าวิธีการเลือกสกินแคร์ป้องกันผิวแก่ก่อนวัยด้านบนนี้เป็นวิธีง่ายและสะดวกที่คุณสามารถหาได้ตามท้องตลาดและสุดท้ายนี้อย่าลืมเรื่องการเลือกทานอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการที่ถือว่าเป็นหนึ่งในเบื้องหลังผิวที่เปล่งปลั่ง คุณควรกินผักและผลไม้ให้มากซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและทำให้ระบบในร่างกายของคุณสะอาด พยายามทานคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอในอาหารของคุณ และน้ำเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผิวที่แข็งแรงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 6 ถึง 8 แก้วเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ไฮโลไทย