ทุกวันนี้ผิวของคุณได้เผชิญกับสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่คอยคุกคามโดยไม่สามารถควบคุมได้จากภายนอก เช่น มลภาวะและแสงแดดที่คอยทำลายสุขภาพผิวของคุณให้แย่ลงในทุก ๆ วันมันจะค่อย ๆ สะสมจนทำให้เกิดปัญหาผิวโดยที่คุณไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียว และนอกจากสิ่งแวดล้อมภายนอกเหล่านี้แล้วคุณยังสามารถทำร้ายผิวของคุณให้แย่ลงไปอีกด้วยมือของคุณเองขณะใช้ผลิตภัณฑ์บนใบหน้า แม้ว่าการทำความสะอาดและการให้ความชุ่มชื้นสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีได้แต่หากคุณบำรุงผิวแบบรุนแรงไม่ทะนุถนอมผิวหรือมอบความอ่อนโยนให้แก่ผิวอาจทำให้การบำรุงเหล่านี้ได้ผลลัพธ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือแย่ไปกว่านั้นอาจสร้างความเสียหายให้กับผิวของคุณได้ ดังนั้นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงจนดูดีขึ้นได้นั่นคือการปรนนิบัติต่อผิวอย่างอ่อนโยนแต่หลาย ๆ คนกลับยังละเลยหรือยังไม่รู้ว่าอะไรคือวิธีที่จะอ่อนโยนต่อผิว มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองและรอยแดงรวมทั้งช่วยให้คุณมีผิวกระจ่างใสและมีสุขภาพผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย โดยมี 2 ส่วนหลักเพื่อมอบความอ่อนโยนต่อผิวได้ดีที่สุดคือ หนึ่งเป็นส่วนของวิธีการในการบำรุงผิวและในส่วนของการเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวด้านล่างนี้จะช่วยอธิบายให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของทั้งสองส่วนนี้พร้อมด้วยคำแนะแนะเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อผิวแข็งแรงกันค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยนจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยการมุ่งเน้นการปกป้องผิวแต่หากคุณสงสัยคำว่า คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ครีมสูตรอ่อนโยน และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสูตรอ่อนโยน โดยทั่วไปหมายถึงอะไรเราได้รวบรวมข้อมูลมาบอกด้านล่างนี้แล้วค่ะ
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยนมักจะมีส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อผิวบอบบางโดยจะผ่านการทดสอบการระคายเคืองต่อผิวหนังมาอย่างรอบคอบแล้ว มันมักมีสูตรที่อ่อนโยน ที่ทำจากส่วนผสมที่ไม่รุนแรง ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มักสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความแตกต่างของปัญหาผิวต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าบางทีที่เราไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรทำให้ผิวของคุณตอบสนองในทางลบเช่น สิว ความแห้งกร้าน หรืออื่น ๆ แต่แน่ ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นบนผิวของคุณตอนนี้นั่นคือเกราะป้องกันผิวหนังได้รับความเสียหายเท่านั้น! ดังนั้นการลดหายนะผิวเหล่านี้ให้ลดลงโดยเร็วที่สุดคือการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน อาจมีฤทธิ์ในการรักษาหรือการบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ทำให้ระคายเคืองเพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยนที่ดีจะมุ่งเน้นที่การช่วยให้คุณฟื้นฟูและปกป้องเกราะป้องกันจึงช่วยให้ผิวของคุณเกิดความสมดุลจนกลับมาแข็งแรงและไม่ว่าคุณจะมีผิวแพ้ง่าย ผิวผสม หรือผิวธรรมดา ผลิตภัณฑ์แบบนี้ก็เหมาะที่จะใช้เป็นประจำโดยไม่ต้องกังวล
สรุปข้อดีโดยรวมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน
- เมื่อมันถูกสร้างมาเพื่อผิวแพ้ง่ายแน่นอนว่ามันก็มีแนวโน้มที่จะปลอดภัยกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
- ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรอ่อนโยนผลิตจากส่วนผสมที่ไม่รุนแรง
- การทดสอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยนมักจะเข้มงวดและละเอียดอ่อนกว่า
วิธีการในการบำรุงผิว (รวมถึงการทำความสะอาดผิวด้วย)
เมื่อพูดถึงการบำรุงผิวหน้าและการทำความสะอาดผิวแล้วแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่มักจะถูมอยเจอร์ไรเซอร์ระหว่างนิ้วมือแล้วทาลงบนผิวแต่เราขอบอกคุณว่านิสัยการทาสกินแคร์แบบนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวมาก ใช่ค่ะการใช้มือและนิ้วกับผิวหน้าไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่ที่ผู้คนส่วนใหญ่ทำผิดคือการลงน้ำหนักมือที่มากเกินไป เกิดการเสียดสีที่รุนแรงกับผิวจนเป็นบ่อเกิดของปัญหาผิวที่สิว ผิวอ่อนแอและความแห้งกร้าน ลองนึกถึงการใช้น้ำยาล้างจานฟองเยอะ ๆ แล้วถูบนกระทะแรง ๆ ยังเกิดรอยได้เลยแล้วผิวที่แสนจะบอบบางจะเหลือหรือคะ ไม่ว่าคุณจะรีบแค่ไหนคุณก็ต้องระวังในการบำรุงหรือทำความสะอาดผิวพอสมควรแต่หากคุณรีบจริง ๆ เราแนะนำให้คุณถูกผลิตภัณฑ์ให้เกิดฟองแล้วค่อยชโลมทิ้งไว้แล้วค่อยล้างออก(การทำความสะอาด)
การลงสกินแคร์สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำคือ “เทคนิคการแตะผิว” เมื่อคุณแตะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เซรั่ม หรือเฟสออยล์เข้าสู่ผิวนอกจากจะไม่ดึงผิวแล้วยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย หรือคุณยังต้องการน้ำหนักกดเพื่อการนวดให้ใช้นิ้วนางในการทาครีมเป็นประจำเพราะน้ำหนักการกดของนิ้วนางจะเบาที่สุด(การบำรุง) ส่วนสำคัญมาก ๆ เป็นบริเวณที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือรอบดวงตาคุณควรใช้นิ้วแต้มอายครีมแล้วค่อย ๆ แตะจนอายครีมกระจายตัวทั่วบริเวณอย่าใช้วิธีการลากเพราะจะเป็นการดึงและเสียดสีผิว ควรเลือกอายครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือครีมที่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษสามารถลดแรงกดและแรงดึงได้แตะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้เข้าสู่ผิวของคุณรับรองวิธีนี้อาจไม่สะใจแต่ผลลัพธ์เกินคาดแน่นอนค่ะ
แล้วถ้าผิวถูกรบกวนจนอ่อนแอจะเกิดอะไรจะเกิดอะไรกับพวกมันกันหล่ะ?
เซลล์ผิวของเรานั้นมีชั้นไขมันที่ห่อหุ้มเพื่อคอยปกป้องสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่าง ๆ นอกจากพวกมันทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวแล้วพวกมันยังต้องคอยให้และกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย เมื่อเราไปรบกวนผิวจนเกิดการอักเสบทำให้เกราะเหล่านี้เกิดรูโหว่เมื่อเกราะถูกเปิดโล่งและไม่มีการป้องกันนั่นทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากขึ้นนี้แหละสาเหตุที่สร้างปัญหาผิวให้สาว ๆ ไม่รู้จบ
ข้อแนะนำและควรระวังเพิ่มเติม!
- งดการแต่งหน้าในวันหยุดหรือมีวันประจำสัปดาห์เพื่อพักผิว
การใช้เครื่องสำอางเป็นประจำหรือทุกวันอาจทำให้ผิวของคุณระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณแต่งหน้าหลายชั้นและใช้แรงกดบนผิวอย่างต่อเนื่องโดยใช้ปลายนิ้วหรืออุปกรณ์แต่งหน้าผิวก็จะเกิดการเสียดสีอย่างหนักและเมื่อเกราะผิวถูกทำลายจนเกิดรูโหว่ทำให้เครื่องสำอางสามารถเข้าไปอุดตันรูขุมขนและกระตุ้นให้เกิดสิวได้ สาว ๆ ควรตั้งเป้าที่จะมีวันเปลือยหน้าเปล่าเพื่อให้ผิวของคุณระบายสิ่งอุดตันออกมาวิธีนี้จะช่วยให้ผิวของคุณทำงานได้อย่างถูกต้องและช่วยให้ครีม เซรั่ม และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่นๆ ซึมผ่านได้ดีขึ้นอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงการขัดหรือถูแรง ๆ
เราขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงใยบวบหรือสครับขัดหน้าเมื่อทำความสะอาดหรือขัดผิวหน้าแม้ว่าการขัดผิวจะจำเป็นต่อการดูแลผิวของคุณซึ่งบางครั้งอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี แต่สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องอ่อนโยนขณะขัดผิว เนื้อสัมผัสที่มีฤทธิ์กัดกร่อนของสครับอาจทำให้เกิดรอยแดงและบวมได้ง่ายหากคุณใช้สครับรุนแรงดังนั้นให้เคลื่อนไหวนิ้วเบา ๆ และขัดผิวเพียงสัปดาห์ละสองครั้งเท่านั้น รอบดวงตาด้วยเช่นกันควรระวังในขณะที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางบนดวงตาออกการถูบริเวณรอบดวงตาไม่เพียงแต่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยเท่านั้นแต่ยังทำให้ผิวของคุณระคายเคืองอีกด้วย สิ่งที่คุณต้องทำคือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางสูตรอ่อนโยนและหยดสำลีสองสามหยดวางแผ่นสำลีบนบริเวณดวงตาของคุณและปล่อยให้เครื่องสำอางละลายแล้วค่อย ๆ ขยับแผ่นสำลีออกจากดวงตาแล้วค่อยเช็ดรายละเอียดจะช่วยผิวได้เยอะเลยนะ
- ใช้ปลอกหมอนผ้าไหมหรือผ้าซาติน
หลาย ๆ คนมองว่าต้องขนาดนี้เลยเหรอ ใช่ค่ะถึงแม้ว่าผ้าฝ้ายจะเป็นผ้าทั่วไปที่ใช้ทำปลอกหมอนแต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผิวหน้าของคุณเพราะผ้าฝ้ายจะคอยดึงสิ่งสกปรก เหงื่อ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม/สกินแคร์ และเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้สะสมจนเกิดความสกปรก นอกจากนี้ผ้าฝ้ายยังดูดความชื้นออกจากเส้นผมและดึงผิวได้รุนแรงกว่า หากใบหน้าของคุณแนบไปกับปลอกหมอนผ้าฝ้ายก็อาจเกิดรอยย่นหรือริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นหากทำได้ควรเปลี่ยนปลอกหมอนผ้าฝ้ายเป็นผ้าไหมเพื่อให้ผิวของคุณลื่นไหลไปกับเนื้อผ้า ปลอกหมอนผ้าไหมและผ้าซาตินมีความอ่อนโยนต่อผิว เนื่องจากช่วยให้ผมและผิวหนังของคุณคงความชุ่มชื้น แล้วยังลดการเสียดสีให้น้อยลงส่งผลให้มีโอกาสเกิดริ้วรอยน้อยและช้าลงนั่นเองแหละค่ะ
- หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองและทำให้ส่วนผสมที่ฟอกผิว
โปรดหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ สารเคมี และน้ำหอมหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นแรงหรือมีสาระสำคัญเข้มข้นอาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้รู้สึกแห้งและตึงได้ มันสามารถทำให้เกิดการผลิตซีบัมมากเกินไปจนทำให้เกิดการสร้างน้ำมันเกินความจำเป็นและส่งผลให้ผิวเสียสมดุล
- ควรระวังการแช่หรืออาบน้ำอุ่น
เมื่อพูดถึงการอาบน้ำในอ่างอาบน้ำมันเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่สุดของวันมอบความสงบแก้อาการปวดเมื่อยได้อย่างดีแต่ถึงแม้ว่ามันจะดีต่อจิตใจและกล้ามเนื้อที่เคร่งเครียดแล้วกลับส่งผลร้ายให้กับผิวของคุณเนื่องจากการแช่น้ำในอ่างจะเพิ่มการสัมผัสน้ำในผิวหนัง ซึ่งจะเป็นการเพิ่ม pH ของผิวหนังและลดความพร้อมของน้ำมันในผิวหนังทำให้ผิวอ่อนแอลง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้สำหรับคนที่หลงรักการแช่น้ำอุ่น ควรเตรียมผิวด้วยการทาออยล์บาง ๆ มันจะทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันผิวเราอีกหนึ่งชั้นรวมทั้งออยล์เหล่านี้จะเข้าไปละลายสิ่งสกปรกที่ติดแน่นบนผิวออกได้ดีเยี่ยม เมื่อเราแช่หรืออาบน้ำอุ่นมันจะค่อย ๆ หลุดออกพร้อมออยล์ที่เราชโลมหมดจดดีทีเดียวโดยที่เรายังคงรักษาน้ำมันตามธรรมชาติของผิวไว้ได้
เราแนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวมากกว่าตัวเลือกน้ำมันอื่น ๆ เพราะน้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยกรดลอริกซึ่งมีประมาณ 50% ของปริมาณกรดไขมันโดยรวมมันมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียโดยออกฤทธิ์ต่อต้านทั้งแบคทีเรีย เร่งกระบวนการสมานแผลไหม้ โดยเรายังไม่สนับสนุนการใช้น้ำมันมะกอกที่เป็นตัวเลือกยอดฮิตและราคาสบายกระเป๋า เพราะน้ำมันมะกอกมีกรดไขมันหลายชนิดอ่านดูแล้วเหมือนจะดีแต่เปล่าเลยมันกลับเป็นกลุ่มไขมันที่มีโอกาสจะสะสมบนผิวให้ระคายเคืองจนเป็นบ่อเกิดของสิวอุดตันแต่หากจำเป็นจะต้องใช้ควรเน้นปริมาณที่เหมาะสมเมื่อนวดแล้วไม่ควรมันเยิ้ม
- ผงซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มก็มีผลนะสาว ๆ
สำหรับที่ใครค่อนข้างรู้ตัวเองว่ามีอาการแพ้ง่ายควรกำจัดสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองโดยควรหลีกเลี่ยงน้ำยาปรับผ้านุ่มและผงซักฟอกที่มีกลิ่นหอมรุนแรง เนื่องจากพวกมันมีสารเคมี เช่น โซเดียมลอริลซัลเฟต โซเดียมโดเดซิลซัลเฟต และน้ำหอมทั้งหมดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระคายเคืองผิวหนังนะคะสาว ๆ
- คนที่เป็นภูมิแพ้หรือเกิดจากการแพ้อะไรบางอย่าง
สุดท้ายนี้ ปัญหาผิวที่คุณเป็นไม่หายอาจเกิดขึ้นจากการเกิดภูมิแพ้กับบางสิ่งบางอย่างที่คุณสัมผัสโดยไม่รู้ตัว โดยปัญหานี้การเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเพื่อเข้ารับการทดสอบว่าคุณแพ้อะไรบ้างไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม ต้นไม้ ดอกไม้ หรือเสื้อผ้าบางชนิดวิธีนี้จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวสะสมโดยหาสาเหตุไม่ได้ควรปรึกษาแพทย์นะคะ