แม้ว่าผิวทุกวัยมีความสวยงามแตกต่างแต่กาลเวลาก็อาจทำให้ผิวที่เคยเปล่งประกายกลับหม่นหมองและหย่อนยานลงได้แต่นอกจากเวลาแล้วสิ่งที่กระตุ้นการทำร้ายผิวเพิ่มมากขึ้นคือพฤติกรรมในการใช้ชีวิตบางอย่างที่ไม่ควรทำ มันอาจจะส่งผลให้กระตุ้นการเกิดริ้วรอยหรือการขจัดน้ำออกจากผิวโดยไม่คาดคิดซึ่งนำไปสู่สัญญาณของริ้วรอยและผิวแก่ก่อนวัย หากคุณเคยสงสัยว่ากิจวัตรของคุณกำลังเร่งเวลาให้ผิวของคุณเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอยู่หรือไม่ เราได้มีคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังชั้นนำเพื่อค้นหานิสัยประจำวันที่คุณอาจต้องการเลิกทำหรือพิจารณาใหม่
เพื่อช่วยยืดอายุช่วยให้ผิวของคุณเต่งตึง สดใส และเรียบเนียนโดยการลดพฤติกรรมเหล่านี้โดยพวกเขาได้แบ่งปันวิธีแก้ปัญหาเพื่อต่อสู้กับการรุกรานของริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน คุณสามารถปรับพฤติกรรมตั้งแต่วิธีที่คุณถือโทรศัพท์จนถึงการทานคุกกี้ตอนเที่ยงนี่คือสิ่งที่อาจสร้างความเสียหายให้กับผิวของคุณ มาดูพฤติกรรมทำร้ายผิวและสิ่งที่ควรจัดการกัน
1. การขยี้ตาบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดรอยคล้ำและริ้วรอยได้
ถุงใต้ตาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชราภาพตามธรรมชาติมันจะเกิดขึ้นกับทุกคน มันจะเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแอลง แต่ถึงแม้ว่าการขยี้ตาไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างถาวรแต่การขยี้ตาอย่างต่อเนื่องสามารถสร้างปัญหาได้โดยการเพิ่มการอักเสบในบริเวณนั้น เพราะว่าการขยี้ตาอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลต่อเส้นรอบดวงตาของคุณรวมถึงการดึงและถูบนผิวบอบบางรอบดวงตาอาจทำให้เกิดความหมองคล้ำได้ โดยมักจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อนกวางซึ่งอาจขยี้ตามากเกินไปเนื่องจากอาการคันและระคายเคืองจนอาจทำให้ดูเหมือนใต้ตาดำคล้ำมากกว่าปกติ Paul Jarrod Frank, MD, แพทย์ผิวหนังที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการในนิวยอร์กซิตี้และผู้เขียน The Pro-Aging Playbook กล่าว
วิธีแก้ปัญหาผิวหนัง
ให้หาสาเหตุว่าทำไมคุณถึงขยี้ตาตามที่ศูนย์การแพทย์ Wexner ของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอในโคลัมบัสได้พบสาเหตุที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดคือ “การแพ้” ดังนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอาการต่าง ๆ
2. การนอนไม่เพียงพอรบกวนการต่ออายุของผิว
การนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างพลังงาน สมาธิ และผิวพรรณ Jeannette Graf, MD, ผู้ช่วยศาสตราจารย์คลินิกโรคผิวหนังแห่ง Mount Sinai School of Medicine ในนิวยอร์กซิตี้กล่าวว่า “ในตอนกลางคืนผิวหนังจะเข้าสู่สภาวะการฟื้นตัวนั่นรวมถึงการฟื้นฟูและต่ออายุให้กับผิวอีกด้วย” เมื่อเวลาผ่านไปการอดนอนอาจส่งผลที่ชัดเจนบนใบหน้าของคุณ การศึกษาที่ตีพิมพ์ในเดือนมกราคม 2015 ใน Clinical and Experimental Dermatology ผู้หญิง 60 คนพบว่าการนอนหลับที่ไม่ดีหรือไม่มีคุณภาพ (หมายถึง 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น) เชื่อมโยงกับสัญญาณแห่งวัยที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก มันทำให้การทำงานของเกราะป้องกันผิวมีประสิทธิภาพที่แย่ลงจึงทำให้ผิวอ่อนแอและส่งข้อความจากภายในออกมาสู่ภายนอกในรูปแบบผิวที่ทรุดโทรม
วิธีแก้ปัญหาผิว
เพื่อการนอนหลับที่เพียงพอให้ทำตามสี่เคล็ดลับเหล่านี้จาก
- เข้านอนและตื่นให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อให้ร่างกายมีตารางเวลา
- ทำให้ห้องนอนของคุณมืด เย็น และเงียบ
- ควรทานทุกอย่างให้เสร็จก่อนภายในสองสามชั่วโมงก่อนที่จะนอนหลับ
- ลดปริมาณคาเฟอีนที่คุณบริโภคในช่วงบ่าย หรือจะเลื่อนเวลาในการดื่มให้เร็วขึ้น
3. การใช้หลอดดูดอาจทำให้เกิดริ้วรอยได้
คุณดื่มน้ำอัดลม ชา และกาแฟโดยใช้หลอดไหม? ข้อดีของมันอาจช่วยป้องกันการหลุดลอกของสีลิปสติกหรือการลดคราบบนฟันของคุณได้ดีแต่รู้ไม่ว่ามันอาจทำให้เกิดริ้วรอยซึ่งเป็นสัญญาณของความชราของผิวบริเวณรอบปากของคุณได้ด้วยนะ เพราะเมื่อคุณดูดน้ำจากหลอดคุณกำลังกระตุ้นกล้ามเนื้อรอบริมฝีปาก “ยิ่งเรากระตุ้นกล้ามเนื้อเหล่านั้นมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งมีโอกาสเกิดรอยย่นในผิวหนังมากขึ้นเท่านั้นและมันก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ผู้สูบบุหรี่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบปากด้วย”
วิธีแก้ปัญหาผิว
อันที่จริงถ้าพูดถึงสุขอนามัยของแก้วหรือบรรจุภัณฑ์ที่ใส่เครื่องดื่มแล้วคุณไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหลอดดูดก็ได้เพื่อลดการติดเชื้อจากเชื้อโรคหรือโรคติดต่อบางชนิดแต่เมื่อใดก็ตามที่คุณอยู่ในบริเวณสะอาดหรือแก้วน้ำส่วนตัวที่สะอาดคุณก็ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูดน้ำไปซะ
4. ความเครียด ปล่อยคอร์ติซอล ทำให้เกิดการสลายคอลลาเจน
“คุณรู้ไหมว่าทุกส่วนของร่างกายนั้นจะได้รับผลกระทบจากความเครียดซึ่งรวมถึงผิวของคุณด้วย” ดร.แฟรงค์กล่าว หากคุณมีภาวะวิตกกังวลเรื้อรัง (หรือนอนไม่หลับเพราะความเครียด) ร่างกายของคุณจะสูบฉีดฮอร์โมนความเครียดออกมาไม่หยุดซึ่งอาจทำให้แก่ก่อนวัยได้ คอร์ติซอลฮอร์โมนความเครียดจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนที่สำคัญต่อผิวซึ่งนำไปสู่ผิวที่หย่อนคล้อยและริ้วรอยเหี่ยวย่นและทำให้เกิดการอักเสบ และความเครียดเรื้อรังสามารถเร่งกระบวนการชราได้เนื่องจากการอักเสบที่เพิ่มขึ้นนั้น
การแก้ปัญหาผิว
ความเครียดสามารถลดลงได้เป็นส่วนใหญ่โดยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต รวมถึงอาหารที่ดี การนอนหลับที่ดีหรือการทำสมาธิลองคิดหาว่าอะไรช่วยให้คุณผ่อนคลายได้และให้ทำเป็นประจำ
ซึ่งทั้งหมดมีผลมหาศาลต่อกระบวนการชราตามธรรมชาติและยังช่วยส่งเสริมให้สกินแคร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
5. การเพิ่งพาสารกันแดดในเครื่องสำอางอาจจะทำให้ผิวหนังไม่ได้รับการปกป้องที่ดี
ทุกคนส่วนใหญ่ที่รักผิวพรรณนั้นรู้ดีว่าวิธีที่ดีว่าค่า SPF นั้นสำคัญกับการปกป้องผิวจากริ้วรอยก่อนวัยดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวจากรังสียูวีการศึกษาหนึ่งในอดีตพบว่าการได้รับแสงอัลตราไวโอเลต (UV) มีส่วนทำให้เกิดสัญญาณริ้วรอยบนใบหน้าที่มองเห็นได้ รวมทั้งริ้วรอยและการเปลี่ยนแปลงของสีผิวถึงร้อยละ 80 แต่ตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ยังไว้ใจที่จะพึ่งพาเครื่องสำอางที่มีค่า SPF เพื่อป้องกันรังสียูวี ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางเหล่านี้มีสารป้องกันแสงก็จริงแต่เมื่อมันได้ผสมรวมเข้ากับส่วนผสมบางอย่างจะทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอเพื่อที่จะปกป้องผิว คุณจะต้องใช้เครื่องสำอางจำนวนมากเพื่อให้ได้ประโยชน์จากสารกันแดดในผลิตภัณฑ์ดังนั้นการแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ Dee Anna Glaser, MD, แพทย์ผิวหนังและหัวหน้าแผนกโรคผิวหนังที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ในรัฐมิสซูรี กล่าว
การแก้ปัญหาผิว
ควรทาครีมกันแดดหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีค่า SPF ที่มี broad-spectru หมายถึงผลิตภัณฑ์จะปกป้องผิวของคุณจากรังสี UVA ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดริ้วรอยของผิวและรังสี UVB ซึ่งอาจทำให้เกิดผิวไหม้จากแดดได้ ตามข้อมูลของมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนังได้บอกไว้ว่า “ผิวของเราต้องการ SPF ที่ใช้แยกออกต่างหากจากเครื่องสำอาง และค่า SPF 30 มักจะเป็นตัวเลขที่ยอมรับได้สำหรับการป้องกัน”
6. อาจเกิดความเสียหายจากรังสียูวีได้หากละเลยคอและมือของคุณ
แสงอัลตราไวโอเลตเป็นปัจจัยเสี่ยงเดียวที่เราสามารถป้องกันและชะลอได้มากที่สุดเพื่อลดการหย่อนคล้อยของผิว แต่แม้แต่ผู้ที่ใช้ครีมกันแดดบ่อย ๆ ก็อาจละเลยคอและมือ สงสัยใช่มั้ยว่าทำไมส่วนลำคอกับมือถึงสำคัญนั่นก็เพราะว่าพวกมันเป็นหนึ่งในส่วนแรก ๆ ที่สามารถบอกอายุของคุณได้ อันที่จริงการวิจัยก่อนหน้านี้พบว่าผู้หญิงที่มือมีเส้นเลือดและรอยย่นที่มองเห็นได้นั้นถูกมองว่าแก่กว่าเพื่อนที่มีมือที่อวบอิ่ม “เมื่อเราอายุมากขึ้นเราจะสูญเสียความยืดหยุ่นไปและมือนั้นได้สูญเสียปริมาณไขมันและความชุ่มชื้นจึงลงเอยด้วยผิวที่มีริ้วรอยและจุดด่างอายุจากผิวที่บางทำให้มือของคุณดูไม่อิ่ม เริ่มเห็นเส้นเอ็นเส้นเลือดมากขึ้นและมันก็จะทำให้ดูย่นมากขึ้น รวมถึงคอก็อาจเปลี่ยนสีและดูแก่ขึ้นได้เช่นกันซึ่งมักเป็นผลมาจากการได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน”
การแก้ปัญหาผิว
การหลีกเลี่ยงรังสียูวีที่เป็นอันตรายสามารถช่วยได้ และถ้าคุณออกไปข้างนอกสิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะทำคือการเดินหรือรอในที่ร่มให้มากที่สุดหากเป็นไปได้ ให้สวมหมวกที่มีปีก ทาครีมกันแดด และเสื้อผ้าป้องกันแสงแดด
7. การลืมแว่นกันแดดสามารถทำลายดวงตาและผิวหนังโดยรอบได้
ตามรายงานของ Piedmont Healthcare รังสียูวีอาจเป็นอันตรายต่อเปลือกตา กระจกตา เลนส์ และเรตินา (และดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ รังสียูวีสามารถทำลายผิวบอบบางรอบดวงตาได้เช่นกัน) และเมื่อคุณจะต้องออกไปข้างนอกที่มีความร้อนและแสงแดดนอกจากผิวที่บอบบางที่โดนแสงยูวีทำร้ายแล้วผิวรอบดวงตายังได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ เช่น การหรี่ตาบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดรอยย่นบนใบหน้าของคุณในระยะยาว ดร. Downie กล่าวว่า ยิ่งคุณกระตุ้นกล้ามเนื้อของคุณในการแสดงออกทางสีหน้ามากเท่าไรคุณก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดรอยย่นมากขึ้นเท่านั้น แว่นกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการปกป้องดวงตา
วิธีแก้ปัญหาผิว
เมื่อคุณจะต้องออกไปข้างนอกยามที่ท้องฟ้าสดใสแม้ฤดูกาลไหนก็แล้วแต่ควรสวมแว่นตากันแดดเพาะยิ่งปกปิดได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้นโดยควรเลือกแว่นตาที่มีค่าป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ ป้องกันรังสี UV 400 ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ให้ลองอ่านฉลากบนตัวผลิตภัณฑ์ดู
8. การใช้สบู่กับผิวสามารถเน้นย้ำให้เกิดริ้วรอย
ปู่ย่าตายายของคุณอาจจะคุ้นชินการทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เรียบง่ายอย่าง “สบู่” แต่สบู่ก้อนมักมีสารซักฟอกที่รุนแรงซึ่งลอกน้ำมันธรรมชาติของผิวออกมากจนเกินไป แม้ว่าผิวแห้งจะไม่ทำให้เกิดริ้วรอยโดยตรงแต่ผิวแห้งจะไม่สามารถป้องกันตัวเองจากสารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคือง เช่น แบคทีเรียและไวรัส รวมถึงทำให้เกราะป้องกันผิวของคุณไม่แข็งแรงเมื่อผิวขาดน้ำ
วิธีแก้ปัญหาผิว
ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ให้ความชุ่มชื้น American Academy of Dermatology บอกว่าให้มองหาคำว่า “อ่อนโยน” และ “ให้ความชุ่มชื่น” บนฉลากและอย่าลืมหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ระงับกลิ่นกายหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวขาดน้ำ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม เรตินอยด์ หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์การล้างหน้าด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีจะทำให้ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
เห็นหรือยังคะว่าพฤติกรรมบางอย่างถึงแม้ว่าอาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นแปดนิสัยที่เรานำมาบอกต่อในวันนี้ หลาย ๆ คนคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เห็นจะต้องใส่ใจแต่อย่าลืมว่าเมื่อคุณทำบ่อยจนติดเป็นนิสัยอาจทำให้คุณมองข้ามและไม่ได้นึกถึงปัญหาผิวที่ตามมา ลองมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เพื่อลดสภาพผิวแก่ก่อนวัยกันค่ะ prettyladybaby
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เว็บบาคาร่า